เลือกอ่านหัวข้อที่น่าสนใจ
ดึงหน้า กี่วันหาย? เปิด Timeline คนไข้หลังศัลยกรรมดึงหน้ากับหมอบีม
ดึงหน้า กี่วันหาย? ทำ Face Lift แล้วจะเห็นรอยแผลหรือเปล่า? เป็นคำถามที่หลายคนเป็นกังวล หมอเลยจะมาสรุปข้อเท็จจริงของการยกกระชับหน้าด้วยการศัลยกรรมดึงหน้าให้ทุกคนทราบ เพื่อคลายกังวลให้กับคนที่อยากมาทำหัตถการดึงหน้า Face Lift ที่ BLS Surgery Center ดึงหน้า กี่วันหาย? มาเปิด Timeline คนไข้หลังศัลยกรรมดึงหน้ากับหมอบีมกันเลยค่ะ
ดึงหน้า (Face Lift)
ดึงหน้า กี่วันหาย?
หลังผ่าตัดดึงหน้า อาจมีความบวมได้บ้าง ในช่วง 7 วันหลังทำ ซึ่งเป็นอาการปกติหลังศัลยกรรม ใช้เวลาประมาณ 7 วัน แม้จะยังไม่ตัดไหม แต่รอยแผลจะเริ่มแห้ง บริเวณรอบแผลจะค่อยๆ หายบวมช้ำแล้ว และหลังดึงหน้าประมาณ 14 วัน จะเป็นช่วงที่หมอนัดคนไข้เข้ามาตัดไหม แผลจะหายสนิท ไม่มีความบวมช้ำ ใบหน้าจะเริ่มเข้าที่ ดูเป็นธรรมชาติ และดูสดใสขึ้นเรื่อยๆ
หลังดึงหน้า มีอาการอย่างไรบ้าง?
หลังดึงหน้า 1-3 วันแรก คนไข้อาจมีอาการบวม รู้สึกตึงๆ ผิวหน้า ร่วมกับอาการปวดเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติหลังผ่าตัด หลังจากนั้นประมาณ 7 วัน อาการบวมจะเริ่มหายไปจนเป็นปกติ หมอจะซ่อนรอยแผลผ่าตัดชิดกับไรผม หรือซ่อนไว้ในไรผม และรอบขอบใบหู ด้วยเทคนิค Invisible Lock ทำให้มองแทบไม่เห็นแผล แม้จะเป็นช่วงหลังผ่าตัดใหม่ๆ แต่หลังทำ 7 วัน รอยแผลจะเริ่มเป็นสีชมพู ดูเนียนไปกับผิวมากขึ้น คนไข้จึงสามารถรวบผม หรือทัดหูได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลกับแผลเลย
ดึงหน้าพักฟื้นกี่วัน?
หลังผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) ที่ BLS Surgery Center แทบไม่ต้องพักฟื้น คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่หมอแนะนำว่าหลังทำใหม่ๆ ควรพักทำกิจกรรมที่อาจรบกวนการเข้าที่ของแผลได้ เช่น ควรเว้นออกกำลังกายหนัก ประมาณ 7-14 วันหลังทำ ควรประคบเย็นรอบแผลบ่อยๆ ในช่วง 1-3 วันแรกหลังผ่าตัด และควรนอนโดยใช้หมอนรองคอ ในช่วง 14 วันหลังผ่าตัด
ข้อดีของการดึงหน้าด้วยเทคนิค Invisible Lock
ดึงหน้า (Face Lift) ด้วยเทคนิคซ่อนแผล Invisible Lock ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะคนไข้ที่ BLS Surgery Center เป็นการศัลยกรรมดึงหน้า ยกกระชับหน้า แก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยและริ้วรอย ด้วยเทคนิคการดึงหน้าในผิวชั้นลึก SMAS ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ยาวนาน ที่สำคัญแผลเล็ก ซ่อนแผลเนียนสนิทชิดขอบไรผม หรือในไรผม และชิดขอบใบหู ทำให้มองไม่เห็นแผล
ข้อดีของการดึงหน้าในชั้น SMAS
ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
ยกกระชับหน้ากับหมอบีม เป็นการศัลยกรรมดึงหน้า ที่ทำหัตถการในชั้นผิว SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวลึกที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าโดยเฉพาะ โดยไม่ทำให้เกิดแรงตึงรั้งที่บริเวณชั้นผิวหนังด้านนอก (Skin) หลังทำผิวหน้าจึงเต่งตึงยกกระชับ ดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ผิวเนียนอ่อนกว่าวัย ลดความหย่อนคล้อยได้ตรงจุด
การทำ Face Lift เป็นหัตถการที่ตอบโจทย์ความหย่อนคล้อยตามวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถจัดการปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยได้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น การยกคิ้ว ยกหางตา ลดรอยตีนกา ลดริ้วรอยใต้ตา ลดร่องแก้ม ลดร่องน้ำหมาก ช่วยให้กรอบหน้าชัด คุณภาพผิวดีขึ้น ทำให้ดูเด็กลง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน
ไม่มีแรงตึงในชั้นผิวหนัง ลดความเสี่ยงเป็นแผลคีลอยด์
แผลคีลอยด์ เป็นแผลนูน ที่มีความแดง และขยายออกนอกขอบของรอยแผล แน่นอนว่าไม่มีใครต้องการ ซึ่งหมอจะใช้เทคนิคดึงหน้าในชั้น SMAS ทำให้ไม่เกิดแรงตึงผิวด้านนอก จึงลดความเสี่ยงของการเกิดแผลคีลอยด์ ร่วมกับการใช้เทคนิค Invisible Lock เย็บซ่อนแผล โดยซ่อนแผลชิดไรผม หรือซ่อนในไรผม แล้วแต่กรณี ซึ่งคนไข้สามารถเลือกได้ และแผลชิดกับแนวกรอบใบหู ทำให้หลังผ่าตัดใหม่ๆ แทบมองไม่เห็นแผล และหลังจากแผลเข้าที่ รอยแผลจะค่อยๆ จางลง ตั้งแต่ช่วงหลังผ่าตัด 1 เดือนเป็นต้นไป ทำให้เมื่อแผลเข้าที่ดีแล้ว จะไม่เห็นรอยแผลเลย
หลังทำไม่บวมช้ำ แผลเนียนหายไว พักฟื้นน้อย
การทำหัตถการส่วนใหญ่ในชั้นผิว SMAS จะรบกวนผิวหนังด้านนอกน้อยมากๆ หลังดึงหน้ากับหมอบีม คนไข้จึงมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เจ็บ แทบไม่มีอาการบวมช้ำ ส่วนเรื่องรอยแผลเนียนมาก คนไข้ส่วนใหญ่บอกว่าคนรอบข้างไม่รู้เลยว่าเพิ่งผ่าตัดดึงหน้ามา ทำให้หายไว และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
ได้ผลลัพธ์ยาวนาน
การทำ Facelift ดึงหน้าในชั้นผิว SMAS นอกจากผลที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกึ่งถาวรมากกว่าการดึงหน้าด้วยเทคนิคอื่นๆ จึงช่วยให้คนไข้ประหยัดเงินและประหยัดเวลา ไม่ต้องไปทำหัตถการเล็กๆ ที่ต้องทำซ้ำบ่อยๆ ได้อีกหลายปี
แชร์ประสบการณ์ดึงหน้า เปิด Timeline แผลสวย จากคนไข้ BLS Surgery Center
เคสคุณปุ๋มปิ๋ม Facelift ยกกระชับหน้า
- เทคนิค Invisible Lock ซ่อนแผลชิดไรผม และรอบขอบใบหู
- รอยแผลหลังทำ 14 วัน : เส้นรอยแผลเนียนไปกับแนวไรผมและรอบกรอบใบหูอย่างเป็นธรรมชาติ ในระยะ 14 วัน ไม่มีอาการบวมช้ำ แต่ยังคงเห็นรอยแผลเป็นสีชมพู
- รอยแผลหลังทำ 30 วัน : รอยแผลแห้งสนิท สีจางลงจนดูเนียนไปกับแนวเส้นผม ส่วนแผลตรงรอบใบหูจางลงมาก จนเห็นแค่รอยบางๆ ระยะนี้แทบมองไม่เห็นรอยแผลผ่าตัดแล้ว
- รอยแผลหลังทำ 6 เดือน : รอยแผลหายสนิท สีของเส้นรอยแผลจางลงเป็นสีเดียวกับผิวของคนไข้ ทำให้ไม่เหลือรอยแผลเลย
เคสคุณแอน Facelift ยกกระชับหน้า
- เทคนิค Invisible Lock ซ่อนแผลชิดไรผม และรอบขอบใบหู
- รอยแผลหลังทำ 7 วัน : เส้นรอยแผลแนบไปกับไรผม และรอบขอบใบหู ในช่วงหลังทำ 7 วัน เป็นช่วงที่แผลกำลังสมาน สามารถมองเห็นแผลได้ แต่ไม่มีอาการบวมช้ำให้เห็น
- รอยแผลหลังทำ 30 วัน : รอยแผลหายสนิท สีรอยแผลกลมกลืนไปกับสีผิว เห็นเป็นสีชมพูจางๆ
- รอยแผลหลังทำ 4 เดือน : แผลหายสนิท จนแทบไม่เหลือรอยแผล คนไข้สามารถรวบผม เกล้าผม หรือทัดหูได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นแผล ซึ่งแผลยังสามารถจางลงได้เรื่อยๆ จนเป็นสีเดียวกับผิว ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
เคสคุณหยก Facelift ยกกระชับหน้า
- เทคนิค Invisible Lock ซ่อนแผลชิดไรผม และรอบขอบใบหู
- รอยแผลหลังทำทันที : เส้นรอยแผลเนียนสวยแนบไปกับขอบไรผมและขอบใบหู ซ่อนแผลเนียน ทำให้ไม่เป็นที่สังเกต
- รอยแผลหลังทำ 10 วัน : แผลเริ่มแห้งสนิท สีของรอยแผลจางลง เป็นสีชมพูอ่อน ไม่มีอาการบวมช้ำ
- รอยแผลหลังทำ 30 วัน : แผลหายสนิท รอยแผลจางลงจนแทบเป็นสีเดียวกับสีผิวของคนไข้เอง
- รอยแผลหลังทำ 1 ปี : ไม่เหลือรอยแผลให้เห็น ผิวบริเวณรอบแผลผ่าตัดเนียน เหมือนกับไม่เคยผ่านการผ่าตัดมาก่อน
เคสคุณแอน Facelift ยกกระชับหน้า
- เทคนิค Invisible Lock ซ่อนแผลในไรผม และรอบขอบใบหู
- รอยแผลหลังทำทันที : แผลซ่อนในไรผม และซ่อนเนียนไปกับกรอบใบหู ทำให้เห็นแผลจากภายนอกได้น้อยมาก
- รอยแผลหลังทำ 30 วัน : รอยแผลรอบกรอบหูหายดี เป็นแค่รอยจางๆ เนียนไปกับใบหู แทบมองไม่เห็น ไม่มีอาการบวมช้ำ
- รอยแผลหลังทำ 3 เดือน : แผลจางลงจนเห็นเป็นเส้นสีขาวบางๆ และจะจางลงได้เรื่อยๆ จนเป็นสีเดียวกับสีผิวของคนไข้
*ระยะเวลาที่รอยแผลจางลงจนเป็นสีเดียวกับผิวคนไข้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ดึงหน้าอยู่ได้กี่ปี
ดึงหน้าอยู่ได้กี่ปี? คำถามนี้คนไข้ถามหมอกันเกือบทุกคนเลย การทำหัตถการยกกระชับใบหน้า ด้วยการดึงหน้ากับหมอบีม ที่ BLS Surgery Center จะผ่าตัดลงลึกถึงชั้น SMAS เป็นการจัดการถึงต้นตอของปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นธรรมชาติ แผลผ่าตัดสวย โอกาสเกิดแผลเป็นน้อย และผลที่ได้จะอยู่ได้ยาวนาน 5-10 ปีเลยค่ะ
ข้อเสีย ของการดึงหน้า
การดึงหน้าเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเทคนิคที่ถูกต้อง ความแม่นยำ ความชำนาญและความละเอียดของศัลยแพทย์ผู้ทำหัตถการเป็นอย่างมาก หากทำหัตถการโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ หรือไม่มีเทคนิคที่ดีและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ เช่น ดึงหน้าแล้วผลที่ได้ไม่เป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน แผลผ่าตัดนูน เป็นคีลอยด์ เห็นแผลชัด เป็นต้น
ข้อห้าม หลังดึงหน้า
การดึงหน้าเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเทคนิคที่ถูกต้อง ความแม่นยำ ความชำนาญและความละเอียดของศัลยแพทย์ผู้ทำหัตถการเป็นอย่างมาก หากทำหัตถการโดยผู้ที่ไม่ชำนาญ หรือไม่มีเทคนิคที่ดีและเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคส อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ เช่น ดึงหน้าแล้วผลที่ได้ไม่เป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน แผลผ่าตัดนูน เป็นคีลอยด์ เห็นแผลชัด เป็นต้น
ข้อห้าม หลังดึงหน้า
- ระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดความเสี่ยงติดเชื้อบริเวณแผลได้
- งดออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม และงดสูบบุหรี่ ในช่วง 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ควรงดรับประทานอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารทะเล ไข่ เป็นต้น
- ไม่สัมผัสแผลโดยตรง และระวังการกระทบกับแผลแรงๆ
ข้อควรทำ หลังศัลยกรรมดึงหน้า
- ทานยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่ง
การทานยาฆ่าเชื้อให้ครบตามแพทย์สั่ง ช่วยลดภาวะติดเชื้อของแผลผ่าตัดได้ดี - นอนยกศีรษะสูง
ทุกหัตถการที่ผ่าตัดบริเวณใบหน้า หมอแนะนำให้นอนยกศีรษะสูง ประมาณ 30-45 องศา ช่วยลดบวมหลังทำได้ - ป้องกันภาวะบวมหลังผ่าตัด
ประคบเย็น ในช่วง 2-3 วันแรกหลังทำ ช่วยป้องกันภาวะบวม และความบอบช้ำหลังผ่าตัดได้ - อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
เช่น อาหารหมักดอง อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ อาจมีเชื้อแบคทีเรียปะปน เสี่ยงต่อการเกิดภาวะติดเชื้อของแผลได้ - หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เพื่อป้องกันภาวะเลือดออก และอาการบวมช้ำบริเวณผ่าตัด - ควรกลับมาติดตามผลอย่างสม่ำเสมอตามแพทย์นัด
ควรติดตามผลตามแพทย์นัดอย่างน้อย 1 ปี เพื่อตรวจดูแผลและป้องกันภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
