ปัญหาคิ้วตกเกิดจากอะไร? แก้ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง

คุณเคยสังเกตตัวเองไหม..บางวันแม้จะนอนครบ 8 ชั่วโมง แต่ใบหน้ากลับดูเศร้า ไม่สดใส หรือแต่งหน้าแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าดูง่วง ดูเหนื่อยอยู่ดี?

ปัญหานี้มักเกิดจาก คิ้วตก และ หางตาตก ซึ่งเป็นภาวะที่หลายคนมองข้าม เพราะมันค่อย ๆ เปลี่ยนไปแบบทีละน้อย จนเราไม่รู้ตัว แนวคิ้วที่อยู่ใกล้ดวงตาเป็นทุนเดิม มักทำให้ลักษณะคิ้วตกเด่นชัดขึ้นตามวัย บางคนถึงขั้นรู้สึกว่าต้องยกคิ้วด้วยตัวเองตลอดเวลา หรือรู้สึกหนักเปลือกตา 

ที่สำคัญคือ “มันไม่ใช่แค่ปัญหาความสวยงาม” เพราะคิ้วตกยังสามารถรบกวนการมองเห็น และทำให้เกิดพฤติกรรมเกร็งหน้าผากเรื้อรัง จนกลายเป็นริ้วรอยหรือ “ตีนกา” ที่ลึกถาวร

ในฐานะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดยกคิ้วด้วยวิธี Endoscopic brow lift (หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Endo brow lift) หมอขอพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างละเอียดว่า…

• คิ้วตก หางตาตก เกิดจากอะไร?
  
• ทำไมโบท็อกซ์ ร้อยไหม หรือฉีดแฟตถึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด?
  
• เทคนิคใหม่อย่าง Endoscopic brow lift + Endotine คืออะไร และทำไมถึงตอบโจทย์มากกว่า?
  
• ถ้าอยาก “ยกคิ้ว” แบบไม่มีแผล ต้องทำยังไง?
  

อ่านจบแล้วคุณจะเข้าใจปัญหานี้อย่างถ่องแท้ พร้อมเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองที่สุด โดยไม่ต้องเสี่ยงลองผิดลองถูกอีกต่อไปค่ะ

ทำไมใบหน้าดูเหนื่อย แม้จะพักผ่อนเพียงพอ?

ใบหน้าเป็นพื้นที่แรกที่สะท้อนความรู้สึกของเราออกไปโดยไม่ต้องพูดอะไร

แต่ในทางกลับกัน บางครั้งใบหน้ากลับสะท้อนความรู้สึกที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น “ดูเหนื่อย ดูเศร้า ดูแก่ก่อนวัย” ทั้งที่ข้างในรู้สึกปกติหรือมั่นใจ

หนึ่งในสาเหตุหลักคือ แนวคิ้วและหางตาที่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ ตามแรงโน้มถ่วงและอายุ

ลองสังเกตดูว่าคิ้วของคุณเคยอยู่สูงกว่านี้ไหม? หางตาเคยเชิดกว่านี้หรือเปล่า?

เมื่อเวลาผ่านไป ไขมันที่เคยพยุงคิ้วเริ่มฝ่อตัว กล้ามเนื้อบางส่วนเริ่มหย่อนลง โดยเฉพาะบริเวณ Frontalis (กล้ามเนื้อหน้าผาก) และ orbicularis oculi (กล้ามเนื้อรอบตา) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการแสดงสีหน้า

ผลลัพธ์คือ…

• หางตาตก ส่งผลให้ใบหน้าดูเศร้า
  
• คิ้วต่ำ ใกล้เบ้าตา ทำให้เปลือกตาดูหนา เหนื่อย
  
• ตีนกาเริ่มชัด เพราะกล้ามเนื้อพยายามเกร็งขึ้นตลอดเวลา
  
• หน้าผากพับเป็นรอย เพราะเราเงยคิ้วเองแบบไม่รู้ตัว
  

ทั้งหมดนี้นำไปสู่ความรู้สึกว่า “หน้าดูไม่สดใส แม้จะไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลย”

ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาภาพลักษณ์ ความมั่นใจ และแม้กระทั่งการมองเห็นในบางคน

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

คิ้วตกคืออะไร? ต่างจากหางตาตกยังไง?

หลายคนมักสับสนระหว่าง “คิ้วตก” กับ “หางตาตก” ว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วเป็นสองภาวะที่เกี่ยวข้องกันแต่มีความแตกต่างอยู่เล็กน้อย

• คิ้วตก คือภาวะที่แนวคิ้วค่อย ๆ ลดต่ำลงจากตำแหน่งปกติ โดยเฉพาะบริเวณหัวคิ้วถึงหางคิ้ว ซึ่งส่งผลให้เปลือกตาบนดูหนาและล้า
  
• หางตาตก คือมุมหางตาที่เฉียงลง ทำให้ดวงตาดูเศร้าและเหนื่อย แม้จะไม่ได้แสดงอารมณ์แบบนั้น
  

ทั้งสองภาวะนี้มักเกิดร่วมกัน และเป็นผลมาจากกล้ามเนื้อใบหน้าที่หย่อนคล้อยตามวัย หรือบางคนอาจเกิดตั้งแต่กำเนิดจากแนวกระดูกเบ้าตาและตำแหน่งคิ้วเดิมที่ต่ำกว่าเดิม

สัญญาณว่า “คิ้วตก” เริ่มเป็นปัญหาแล้ว

• ต้องยกคิ้วเองบ่อย ๆ เวลาส่องกระจกหรือถ่ายรูป
  
• รู้สึกหนักเปลือกตา แต่งตาไม่สวยเหมือนเดิม
  
• ตีนกาเริ่มลึกขึ้น แม้จะฉีดโบท็อกซ์แล้ว
  
• หน้าผากเริ่มพับเป็นรอยถาวร เพราะเงยคิ้วบ่อยเกินไป
  

ในเคสเหล่านี้ วิธีการยกคิ้วที่ถาวรและได้ผลมากกว่าโบท็อกซ์หรือร้อยไหม คือ Endoscopic brow lift หรือ Endo brow lift ซึ่งเราจะอธิบายให้ชัดเจนในหัวข้อถัดไปค่ะ

ทำไมการฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม หรือฉีดแฟตไม่เพียงพอ?

หลายคนพยายามแก้ปัญหาคิ้วตก หางตาตก ด้วยวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เช่น

• โบท็อกซ์ยกหางตา
  
• ร้อยไหมยกหางตาหรือหางคิ้ว
  
• ฉีดแฟตเติมหน้าขมับเพื่อพยุงแนวคิ้วให้ดูยกขึ้น
  

ซึ่งในบางเคสก็สามารถ “ช่วยให้ดูดีขึ้นชั่วคราว” ได้

แต่หากเราต้องการ ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร โดยเฉพาะในคนที่คิ้วตกชัดหรือหางตาตกมาตั้งแต่โครงสร้างเดิม วิธีเหล่านี้ไม่สามารถแก้ได้ลึกถึงต้นเหตุ

เหตุผลคือ

• โบท็อกซ์ทำให้กล้ามเนื้อบางจุดหยุดทำงานชั่วคราว ไม่สามารถดึงคิ้วให้สูงขึ้นจริง
  
• ร้อยไหมดึงเฉพาะชั้นผิว ไม่สามารถยกกล้ามเนื้อลึกได้ และผลลัพธ์อยู่ได้เพียง 6–12 เดือน
  
• ฉีดแฟตอาจช่วยให้หน้าขมับเต็มขึ้น แต่ไม่สามารถ “ยก” คิ้วขึ้นได้จริง
  

ดังนั้น ในคนที่มีปัญหาชัดเจนหรือเริ่มมีอายุ 30–60 ปี การใช้เทคนิค Endoscopic brow lift (หรือ Endo brow lift) ร่วมกับ Endotine ซึ่งเป็นอุปกรณ์พยุงแนวคิ้วแบบถาวร จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กว่าอย่างชัดเจนค่ะ

ยกคิ้วมีกี่ประเภท? วิธีไหนเหมาะกับปัญหาของคุณที่สุด

การ ยกคิ้ว ถือเป็นหนึ่งในวิธีการปรับโครงหน้าให้ดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีปัญหา คิ้วตก, หางตาตก, หรือรู้สึกว่าหน้าดูอ่อนแรงเหมือนคนเหนื่อยตลอดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่า การยกคิ้วมีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอายุ โครงสร้างผิว และความคาดหวังของแต่ละคน

1. ยกคิ้วแบบฉีด (Botox Brow Lift)

• ใช้โบท็อกซ์คลายกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากด้านบน เพื่อให้กล้ามเนื้อด้านล่างยกขึ้น
  
• เหมาะกับคนอายุ 25–40 ปีที่ยังไม่มีหนังตาตกมาก
  
• ผลอยู่ได้ประมาณ 3–6 เดือน
  
• เหมาะกับคนที่ต้องการปรับคิ้วให้ดูเฉี่ยวขึ้นแบบชั่วคราว
  

2. ยกคิ้วด้วยไหมละลาย (Thread Lift)

• ใช้ไหมละลายสอดเข้าไปในชั้นผิวหนัง แล้วดึงคิ้วขึ้น
  
• อยู่ได้นาน 6–12 เดือน
  
• ไม่ต้องพักฟื้น แต่ผลอาจไม่เท่ากับการผ่าตัด
  
• เหมาะกับคนที่ยังไม่พร้อมผ่าตัดหรืออยากทดลองดูก่อน
  

3. ยกคิ้วด้วยเลเซอร์ หรือ Ultherapy

• ใช้พลังงานความร้อนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวกระชับขึ้น
  
• เหมาะกับคนที่คิ้วตกเล็กน้อยหรือมีริ้วรอยไม่มาก
  
• ผลอยู่ได้ 6 เดือน–1 ปี
  

4. ยกคิ้วแบบผ่าตัดดั้งเดิม (Coronal Brow Lift)

• ผ่าตัดเปิดจากหูข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง ยกเนื้อเยื่อหน้าผากทั้งหมดขึ้น
  
• มีรอยแผลยาวในไรผม
  
• เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก
  

5. ยกคิ้วแบบซ่อนแผล (Endoscopic Brow Lift หรือ Endo Brow Lift)

• ใช้กล้องส่องผ่านรูแผลเล็ก ๆ ในไรผม
  
• มีการใช้ Endotine ช่วยล็อกเนื้อเยื่อให้ยกค้างไว้
  
• ฟื้นตัวเร็ว แผลไม่เห็นจากภายนอก
  
• ผลอยู่ได้นาน 5–10 ปี
  
• เป็นที่นิยมที่สุดในยุคปัจจุบัน เพราะดูธรรมชาติ และไม่มีรอยแผลชัดเจน

อยากรู้วิธีไหนเหมาะกับปัญหาของคุณ ปรึกษากับแพทย์ของเราได้เลย [คลิกที่นี่] 

Endoscopic Brow Lift คืออะไร? (หรือที่เรียกกันว่า Endo browlift)

Endoscopic brow lift คือการผ่าตัดยกคิ้วด้วยการส่องกล้องผ่านแผลเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในไรผม

แพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็กเพื่อเข้าไปตัดและจัดวางกล้ามเนื้อที่ทำให้คิ้วตก จากนั้นใช้เครื่องมือเฉพาะในการยกคิ้วขึ้นไปในตำแหน่งที่เหมาะสม และยึดด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Endotine เพื่อให้คิ้วยกอยู่ทรงยาวนานหลายปี

จุดเด่นของ Endo browlift

• ไม่มีแผลเห็นจากภายนอก เพราะซ่อนในไรผม
  
• แผลเล็กเพียง 1–1.5 ซม. หายไว ไม่ต้องพักฟื้นนาน
  
• สามารถยกได้ทั้งแนวคิ้ว หางตา และลดแรงดึงของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดตีนกา
  
• ให้ผลลัพธ์ถาวร 5–10 ปี เพราะแก้ที่โครงสร้างกล้ามเนื้อ
  

เทคนิคนี้จึงเหมาะมากสำหรับคนที่อยากดูสดใสขึ้น ดวงตาเปิดมากขึ้น หน้าดูอ่อนเยาว์ แต่ไม่อยากผ่าตัดใหญ่หรือมีรอยแผลให้เห็น

Endotine คืออะไร? จำเป็นไหม?

Endotine เป็นชื่อของอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการยึดกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่ยกขึ้นใหม่

มันเป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูง ผลิตจากสารที่สามารถย่อยสลายได้ในร่างกาย (bioabsorbable) และถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการศัลยกรรมเฉพาะจุด

ทำไม Endotine จึงเป็นหัวใจของ Endo browlift ที่ประสบความสำเร็จ?

• ช่วยล็อกแนวคิ้วไว้ในตำแหน่งใหม่ โดยไม่ต้องเย็บแน่นแบบเดิม
  
• ลดการเคลื่อนไหวระหว่างแผล ทำให้หายไว บวมน้อย
  
• เมื่อร่างกายสร้างพังผืดขึ้นแทนที่ ตัว Endotine ก็จะค่อย ๆ สลายไปเองใน 6–12 เดือน
  

นั่นแปลว่า Endotine คือเบาะรองรับที่ปลอดภัยในการฟื้นฟูแนวคิ้วที่ตกและเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Endo browlift ได้ผลยาวนาน โดยไม่ต้องยกซ้ำบ่อย ๆ

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Endo Browlift?

สำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ การทำ Endo browlift จะตอบโจทย์ที่สุด เพราะเป็นการแก้ปัญหาคิ้วตกและหางตาตกจากโครงสร้างอย่างแท้จริง

เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่เริ่มมีปัญหาแนวคิ้วตกหรือหางตาตกเล็กน้อย
  
• คนที่มีเปลือกตาหนา ดูง่วง ดูเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา แม้พักผ่อนเพียงพอ
  
• คนที่มีริ้วรอยหน้าผาก เพราะต้องยกคิ้วเองอยู่บ่อย ๆ
  
• คนที่แต่งตาแล้วเห็นหนังตาห้อย แต่งยาก ต้องยกคิ้วก่อนถึงจะเห็นชั้นตา
  
• คนที่เคยฉีดโบท็อกซ์หรือร้อยไหมแล้วยังไม่พอ อยากยกคิ้วถาวรโดยไม่ให้เห็นแผล
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์อยู่ได้นาน 5–10 ปี โดยไม่ต้องพึ่งหัตถการบ่อยครั้ง
  

ไม่เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ห้ามผ่าตัดหรือวางยาสลบ
  
• คนที่มีคิ้วอยู่สูงอยู่แล้ว และไม่มีอาการหางตาตก
  
• คนที่ต้องการผลลัพธ์ชั่วคราว 

ยกคิ้วกับตัดหนังตา ต่างกันอย่างไร?

คำถามยอดฮิตของคนที่เริ่มมีหนังตาตกหรือเปลือกตาหนา คือ..จะตัดหนังตาหรือยกคิ้วดี? อะไรเหมาะกับเรา?

คำตอบคือ “ต้องดูจากต้นตอของปัญหา”

Subbrow lift คืออะไร? อ่านต่อ : https://drbeamfacialplastic.com/surgery-service/subbrow-lift/

H3: เลือกวิธีแก้ “หนังตาตก – คิ้วตก” ให้ถูกจุด!

1. ถ้าคิ้วอยู่ในตำแหน่งปกติ แต่หนังตาหย่อนลงมาเยอะมาก

– เหมาะกับ ตัดหนังตาบน เพราะช่วยเอาหนังส่วนเกินออกได้โดยตรง

2. ถ้าคิ้วตกทั้งแนว ทำให้หนังตาดูหนา ทั้งที่ไม่ได้มีหนังเกินมากนัก

– เหมาะกับ Endo browlift เพราะยกโครงสร้างแนวคิ้วขึ้น จะทำให้หนังตาเปิดเองโดยไม่ต้องตัด

3. ถ้าคิ้วตกเล็กน้อย แต่หางตาตกชัดเจน ดวงตาดูเศร้า

– แนะนำทำ Endo browlift เฉพาะหางคิ้วเพื่อยกเฉพาะส่วนที่ตกโดยไม่ยกทั้งแนว

หากทำผิดวิธี เช่น ไปตัดหนังตาทั้งที่คิ้วยังตกอยู่ ผลลัพธ์อาจไม่สวย และทำให้ดวงตาดูเล็กลงกว่าเดิม

เพราะฉะนั้นการประเมินโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางที่เข้าใจ โครงสร้างคิ้ว กล้ามเนื้อ และแรงดึง จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาสมดุลที่สุด

ขอดูเคสรีวิวจริง | ปรึกษาหมอ | นัดวันผ่าตัด [คลิกที่นี่] 

ก่อนทำ Endo Browlift? ต้องรู้อะไรบ้าง?

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด Endo browlift ควรเตรียมตัวและทำความเข้าใจสิ่งต่อไปนี้:

Q: ต้องวางยาสลบไหม?

• ใช่ค่ะ ในกรณีทำทั้งแนว หรือร่วมกับหัตถการอื่น เช่น facelift หรือแก้ไขเปลือกตา
  
• แต่ถ้าทำเฉพาะจุด (เช่น ยกหางคิ้ว) บางคลินิกสามารถทำแบบยาชาเฉพาะที่ได้
  

Q:  พักฟื้นนานไหม?

• บวมเล็กน้อยประมาณ 3–7 วัน
  
• ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  
• สามารถล้างหน้า สระผม และแต่งหน้าได้หลังจาก 5–7 วัน
  

Q: แผลจะอยู่ตรงไหน?

• แผลซ่อนอยู่ในไรผมด้านหน้า หรือขมับ (แล้วแต่เทคนิคของแพทย์)
  
• มีขนาดเพียง 1–2 ซม. เย็บด้วยไหมเล็ก ไม่ต้องตัดไหม (ละลายเอง)
  

Q: ต้องเอา Endotine ออกไหม?

• ไม่ต้องค่ะ Endotine จะย่อยสลายไปเองในร่างกาย และไม่ทิ้งสารตกค้าง
  

เทคนิค Invisible Lock คืออะไร? ดีกว่ายังไง?

Invisible Lock คือเทคนิคยกคิ้วที่ซ่อนแผลไว้ในไรผม โดยใช้กล้องส่องขนาดเล็ก + Endotine

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ยกคิ้วและหางตาโดย ไม่มีแผลเห็น, ไม่มีรอยเย็บ, และ ไม่มีแผลถาวร เหมือนการยกคิ้วแบบเปิด

จุดเด่นของเทคนิค Invisible Lock

• ใช้การผ่าตัดแบบเจาะจุดเล็กในไรผมเท่านั้น
  
• กล้องช่วยให้เห็นกล้ามเนื้อชัด ทำให้ยกได้แม่นยำ
  
• ผลลัพธ์ธรรมชาติ ไม่โป๊ะ
  
• ไม่ต้องพักฟื้นนาน
  
• ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 5–10 ปี
  

เทคนิคนี้เหมาะกับคนที่อยากยกคิ้วหรือยกหางตาแบบ “ไม่มีใครรู้ว่าไปทำมา”

เหมาะกับอาชีพที่ต้องออกสื่อ ทำงานเจอคน หรืออยากดูดีแต่ยังอยากเก็บความลับไว้กับตัวเอง

รู้จักเทศนิค Invible Lock ที่หมอเลือกใช้จริง อยู่นาน แผลสวย ไม่โป๊ะ
อ่านต่อ : https://drbeamfacialplastic.com/news-amp-blog/facelift-invisible-lock/

สรุปปัญหาคิ้วตกเกิดจากอะไร? แก้ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง?

คิ้วตก มักเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น กล้ามเนื้ออ่อนแรง พฤติกรรมที่ใช้ใบหน้าซ้ำ ๆ หรือพันธุกรรม ส่งผลให้ หางตาตก หนังตาหย่อน ใบหน้าดูเหนื่อยและเศร้า อย่ารอให้ปัญหาหนักขึ้นจนอาจต้องผ่าตัดใหญ่ในอนาคต เพราะการวางแผนยกคิ้วหรือแก้หางตาตกในจังหวะที่เหมาะสม จะช่วยให้หน้าเราดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งแอปแต่งรูปหรือฟิลเตอร์ใด ๆ

ที่ BEAMS Plastic Surgery เราเน้นการแก้ไขปัญหาด้วยเทคนิคเฉพาะบุคคล พร้อมประเมินโครงสร้างใบหน้าและกล้ามเนื้ออย่างละเอียด เพื่อให้การ ยกคิ้วแบบส่องกล้อง (Endo Browlift) เป็นมากกว่าการผ่าตัด แต่เป็น “การคืนความสดใสให้ใบหน้า” หากคุณกำลังมีปัญหาคิ้วตก หางตาตก และอยากปรึกษาวิธีที่เหมาะกับคุณ สามารถนัดประเมินกับแพทย์เฉพาะทางได้ที่ BEAMS Facial Plastic ได้เลยค่ะ