หมวดความรู้ทั่วไป

หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร รวมอาหารต้องห้ามและอาหารช่วยแผลหายไว

หลังผ่าตัดห้ามกินอะไร

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรม โดยเฉพาะศัลยกรรมบนใบหน้า ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเข้าที่ได้เร็วที่สุด ซึ่งนอกเหนือจากการดูแลแผลผ่าตัดให้สะอาดและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดแล้ว “อาหารการกิน” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะอาหารบางชนิดอาจส่งผลเสียต่อการฟื้นตัว ทำให้แผลหายช้า บวมนาน หรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลมาให้แล้วค่ะ

ทำไมอาหารการกินถึงสำคัญต่อการฟื้นตัวหลังผ่าตัด

หลายคนอาจคิดว่าอาหารเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วโภชนาการที่เหมาะสมมีผลอย่างยิ่งต่อกระบวนการซ่อมแซมร่างกายในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่การลดความเสี่ยงของการติดเชื้อไปจนถึงการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ให้แข็งแรง

ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการอักเสบ

อาหารบางชนิดมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบโดยตรง ในทางกลับกัน อาหารบางประเภท เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือไขมันทรานส์ อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้แผลบวมแดงนานกว่าปกติ และเพิ่มความเสี่ยงที่แผลจะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องจึงเปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันให้แผลจากภายใน

ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่

หลังการผ่าตัด ร่างกายต้องการสารอาหารสำคัญอย่างโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ เพื่อใช้ในกระบวนการสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ สร้างคอลลาเจน และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหาย หากร่างกายขาดสารอาหารเหล่านี้ไป กระบวนการสมานแผลก็จะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด และอาจส่งผลต่อลักษณะของแผลเป็นในระยะยาวได้

เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

การผ่าตัดเป็นภาวะที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงชั่วคราว ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานหนักขึ้น การได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะวิตามินและแร่ธาตุ จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดขาวและระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมให้กลับมาแข็งแรง สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลังผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้างเช็กลิสต์ 8 อาหารที่งดเด็ดขาด

เพื่อให้การพักฟื้นเป็นไปอย่างราบรื่นและเห็นผลลัพธ์ความสวยได้เร็วที่สุด ลองมาเช็กกันดูว่าหลังผ่าตัดห้ามกินอะไรบ้าง นี่คือ 8 กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดในช่วงพักฟื้นค่ะ

1. อาหารหมักดอง

อาหารหมักดองทุกชนิด เช่น ปลาร้า, กะปิ, ผักกาดดอง, ผลไม้ดอง มักมีส่วนประกอบของโซเดียมในปริมาณสูงและอาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ซึ่งสามารถกระตุ้นการอักเสบ ทำให้แผลบวมแดงมากขึ้น และที่สำคัญคืออาจทำให้แผลติดเชื้อจนเกิดเป็นหนองหรือเป็นแผลเป็นนูน (คีลอยด์) ได้ในอนาคต

2. อาหารรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด

อาหารที่มีรสเผ็ดจัดจะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดมากกว่าปกติ ทำให้เลือดออกซึมที่แผลได้ ส่วนอาหารเค็มจัดที่มีโซเดียมสูงจะทำให้ร่างกายบวมน้ำ ส่งผลให้บริเวณแผลผ่าตัดบวมมากขึ้น กดทับเส้นเลือด และทำให้แผลหายช้าลง ดังนั้นในช่วงแรกควรงดอาหารรสจัดทุกชนิดไปก่อน

3. อาหารแปรรูปและไขมันทรานส์

อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก, แฮม, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมถึงอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงอย่างเบเกอรี, ของทอด, ฟาสต์ฟู้ด เป็นกลุ่มอาหารที่กระตุ้นกระบวนการอักเสบในร่างกายโดยตรง การรับประทานอาหารเหล่านี้จะขัดขวางกระบวนการฟื้นตัวและทำให้แผลอักเสบได้ง่าย

4. ของหวานและอาหารที่มีน้ำตาลสูง

น้ำตาลคือตัวการสำคัญที่เข้าไปขัดขวางการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและลดความสามารถในการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย ทำให้ผิวหนังซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลง นอกจากนี้ น้ำตาลยังเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้แผลผ่าตัดติดเชื้อได้อีกด้วย

5. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด

ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาดทั้งก่อนและหลังผ่าตัด เพราะแอลกอฮอล์จะไปรบกวนการทำงานของตับในการกำจัดยาปฏิชีวนะหรือยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ และยังส่งผลให้เลือดแข็งตัวช้าลง ทำให้แผลเสี่ยงต่อการบวมช้ำหรือเลือดออกง่ายขึ้น

6. อาหารดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ

อาหารดิบ เช่น ซาชิมิ, ส้มตำปูปลาร้า, ไข่ดอง, สเต๊กที่ไม่สุกเต็มที่ อาจมีการปนเปื้อนของพยาธิหรือแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ซึ่งในช่วงที่ร่างกายกำลังอ่อนแอหลังผ่าตัด หากได้รับเชื้อเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรงหรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายอย่างยิ่ง

7. อาหารเสริมหรือวิตามินบางชนิด

แม้ว่าวิตามินจะมีประโยชน์ แต่บางชนิด เช่น วิตามิน E, น้ำมันตับปลา (Fish Oil), จิงโกะ (Ginkgo) หรือโสม มีฤทธิ์ทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง ดังนั้นจึงควรงดอาหารเสริมกลุ่มนี้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด หรือจนกว่าแพทย์จะอนุญาต เพื่อป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด

8. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน (ในปริมาณมาก)

เช่น ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมบางชนิด การดื่มในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลต่อความดันโลหิตและรบกวนการพักผ่อนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงฟื้นตัว อีกทั้งคาเฟอีนยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ง่าย จึงควรจำกัดปริมาณหรือเลือกดื่มเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีนแทน

หลังผ่าตัดกินอะไรได้บ้าง

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

รวมสารอาหารช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น

เมื่อรู้แล้วว่าหลังผ่าตัดห้ามกินอะไรก็ถึงเวลามาดูลิสต์อาหารที่ควรรับประทานเพื่อช่วยให้แผลสมานตัวได้ดี บวมช้ำน้อยลง และฟื้นตัวกลับมาสวยเป๊ะได้เร็วขึ้น ซึ่งสารอาหารสำคัญมีดังนี้

โปรตีนคุณภาพสูง

โปรตีนเป็นส่วนประกอบหลักในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ทุกชนิดในร่างกาย ควรเลือกทานโปรตีนคุณภาพดีและย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา, ไข่, เนื้อไก่ (ส่วนอก), เต้าหู้, ควินัว หรือโปรตีนเชค เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้สร้างเนื้อเยื่อใหม่บริเวณแผลผ่าตัดได้อย่างเต็มที่

วิตามิน C

วิตามิน C มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของผิวหนัง ทำให้แผลสมานตัวได้ดีและแข็งแรงขึ้น แหล่งวิตามิน C ชั้นดีพบได้ในผลไม้ตระกูลเบอร์รี, กีวี, ส้ม, ฝรั่ง และผักใบเขียวต่าง ๆ

สังกะสี (Zinc)

แร่ธาตุสังกะสีหรือซิงค์ ทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ช่วยของเอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมบาดแผลและลดการอักเสบ การได้รับสังกะสีอย่างเพียงพอจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พบมากในอาหารทะเล, ธัญพืชไม่ขัดสี, ถั่ว และเมล็ดฟักทอง

ไขมันดี

ไขมันดี (Unsaturated Fat) เช่น ไขมันจากอะโวคาโด, น้ำมันมะกอก, ถั่วอัลมอนด์ และปลาทะเลน้ำลึกอย่างแซลมอน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้แผลยุบบวมได้เร็วขึ้น

น้ำเปล่า

การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะน้ำช่วยนำสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ทำให้กระบวนการซ่อมแซมแผลเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกายอีกด้วย

คุณหมออยากบอก

“ทุกเคสศัลยกรรมมีรายละเอียดเฉพาะตัว อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยได้ หมอจึงอยากให้ดูแลตัวเองตามแนวทางที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แผลหายเร็วและผลลัพธ์ออกมาสวยที่สุดค่ะ” 

หมอบีม Facial Expert, BEAMS Plastic Surgery

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาหารการกินหลังผ่าตัด

หลังผ่าตัดกี่วันถึงจะกลับมากินอาหารปกติได้

โดยทั่วไปแล้ว ควรหลีกเลี่ยงอาหารต้องห้ามอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด หรือจนกว่าแผลจะแห้งสนิทและหายดี อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและการผ่าตัดแต่ละประเภท ทางที่ดีที่สุดคือการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแลอย่างเคร่งครัด

ดื่มกาแฟหลังผ่าตัดได้หรือไม่

สามารถดื่มได้ในปริมาณเล็กน้อย (ไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน) เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากคาเฟอีนที่อาจรบกวนการพักผ่อนและความดันโลหิต แต่หากเป็นไปได้ การงดไปก่อนในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก หรือเลือกดื่มเป็นกาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf) จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

จำเป็นต้องกินอาหารเสริมเพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นไหม

การรับประทานอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่และเน้นสารอาหารที่ช่วยสมานแผลนั้นเพียงพอแล้ว การทานอาหารเสริมใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพราะอาหารเสริมบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ได้รับ หรือส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดได้

สรุปหลังผ่าตัดห้ามกินอะไร

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

สรุปบทความ

จะเห็นได้ว่าการเลือกรับประทานอาหารหลังผ่าตัดนั้นมีความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่น ๆ เลย การรู้ว่าหลังผ่าตัดห้ามกินอะไรและควรเลือกทานอะไร จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้น ศัลยกรรมคิ้ว รวมถึงการยกกระชับหน้า ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ทำให้แผลสวย หายไว และช่วยให้คุณกลับมามีความสุขกับผลลัพธ์ที่สวยงามได้เร็วยิ่งขึ้น หากใครมีปัญหาหรือข้อกังวลเกี่ยวกับศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า BEAMS Plastic Surgery พร้อมดูแลทุกปัญหาโดย หมอบีม และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เข้ามาปรึกษาเพื่อแนวทางแก้ไขและผลลัพธ์ที่น่าพอใจร่วมกัน สอบถามกับหมอบีม Facial Expert ผ่านช่องทางต่าง ๆ มาได้เลยค่ะ

บทความโดย : พญ.คุณาภรณ์ ตั้งธนะวัฒน์ (หมอบีม)

ศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้าเฉพาะทาง

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

กรอกข้อมูล ให้เราติดต่อกลับ

Becoming Your Best Self

เข้าใจทุกความกังวลและปัญหาผิวพรรณของคุณ
ด้วยการรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล