
ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยเป็นความกังวลของหลายคนที่มีอายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึกร่วมด้วย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเพลียและแก่กว่าวัย วันนี้หมอจะมาแนะนำวิธีการยกกระชับหน้าแบบต่างๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีหลากหลายเทคนิคที่สามารถเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคนได้ค่ะ หมอจะอธิบายทั้งข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละวิธี เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและตัดสินใจได้ว่า ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด สำหรับตัวเองนะคะ
ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยมีอะไรบ้าง
ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยที่พบบ่อยมีหลายรูปแบบ แต่ละปัญหาส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน การทำความเข้าใจปัญหาเหล่านี้จะช่วยให้เลือกวิธียกกระชับหน้าได้อย่างเหมาะสม
- ริ้วรอยและรอยย่น เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น มักเริ่มปรากฏบริเวณรอบดวงตา ปาก และหน้าผาก
- ผิวหย่อนคล้อย เกิดจากแรงโน้มถ่วงและการสูญเสียความตึงกระชับของผิว ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและไม่กระชับ
- เบ้าตาลึก เกิดจากการสูญเสียปริมาตรใต้ตาและผิวหย่อนคล้อย ทำให้ดวงตาดูโหล่อ่อนเพลีย และไม่สดใส
- แก้มยุบ เกิดจากการสูญเสียไขมันและปริมาตรบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าดูขุ่นมัวและไม่อิ่มเอิบ
- หนังคอหย่อนคล้อย เกิดจากการสูญเสียความตึงกระชับของผิวบริเวณคอ ทำให้ดูมีอายุมากขึ้น
- ขอบหน้าไม่ชัด เกิดจากการสะสมไขมันและผิวหย่อนคล้อยบริเวณขอบหน้า ทำให้โครงหน้าดูไม่คมชัด
ทำไมต้องยกกระชับหน้า
การยกกระชับหน้ามีประโยชน์มากกว่าการเสริมความงาม เพราะส่งผลต่อความมั่นใจและคุณภาพชีวิต การเข้าใจเหตุผลเหล่านี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่า ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุดสำหรับตนเอง
- เพิ่มความมั่นใจ ใบหน้าที่กระชับและดูอ่อนเยาว์ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพบปะผู้คนและการทำงาน
- ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย การยกกระชับช่วยให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ลดปัญหาที่ทำให้ดูแก่กว่าวัยจริง
- ปรับปรุงการแสดงออกทางสีหน้า ผิวที่กระชับช่วยให้การแสดงออกทางสีหน้าดูธรรมชาติและมีชีวิตชีวามากขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เครื่องสำอาง ผิวที่เรียบเนียนและกระชับช่วยให้การแต่งหน้าดูสวยและติดทนนานขึ้น
- ป้องกันปัญหาในอนาคต การยกกระชับช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของผิวและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- เพิ่มคุณภาพชีวิต ความพึงพอใจในรูปลักษณ์ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน
ใครเหมาะกับการยกกระชับหน้า
การยกกระชับหน้าเหมาะกับบุคคลหลากหลายกลุ่ม โดยขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และความต้องการ การประเมินความเหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการยกกระชับหน้า
- ผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอยเล็กน้อยและต้องการป้องกันการเสื่อมสภาพของผิว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ที่ต้องการความกระชับและความตึงของผิว
- ผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก หรือดวงตาที่ดูอ่อนเพลียและไม่สดใส
- ผู้ที่สูญเสียปริมาตรใบหน้า จากการลดน้ำหนักหรือผลของอายุที่เพิ่มขึ้น
- ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามในการทำหัตถการ
- ผู้ที่มีความคาดหวังที่สมเหตุสมผล และเข้าใจข้อจำกัดของแต่ละวิธีการรักษา
- ผู้ที่พร้อมดูแลตัวเองหลังการรักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
วิธียกกระชับใบหน้ายอดนิยม เห็นผลชัดเจน
การยกกระชับหน้ามีหลากหลายวิธีที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม แต่ละวิธีมีกลไกการทำงานและความเข้มข้นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึกที่ต้องการวิธีการที่ช่วยเพิ่มความตึงกระชับให้กับผิวบริเวณรอบดวงตาด้วย

1. การผ่าตัดยกกระชับใบหน้า
การผ่าตัดยกกระชับใบหน้าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้หลายส่วน โดยเป็นการยกและปรับโครงสร้างชั้นใต้ผิวหนังให้กลับมาตึงกระชับดังเดิม ที่ BEAMS plastic surgery มีเทคนิคศัลยกรรมเฉพาะที่โดดเด่น 2 เทคนิคคือ
- การดึงหน้า Facelift ซึ่งเป็นการผ่าตัดดึงหน้าในชั้นผิว SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) ที่เป็นชั้นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อใบหน้าอยู่ใต้ชั้นไขมัน
- การส่องกล้องดึงหน้า Endo-Face Lift นวัตกรรมล่าสุดที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้มีปัญหาหย่อนคล้อยระดับปานกลาง
ที่พิเศษคือทั้งสองเทคนิคนี้ใช้เทคนิค Invisible Lock ซึ่งเป็นเคล็ดลับเฉพาะจาก BEAMS plastic surgery เท่านั้น ที่ช่วยเย็บซ่อนแผลชิดไรผม ทำให้แทบไม่เห็นรอยแผลหลังการผ่าตัด
ข้อดีของการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า
- ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและคงทนยาวนาน 5-10 ปี
- แก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยได้ครอบคลุมทั้งใบหน้า
- สามารถแก้ไขความหย่อนคล้อยของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อจำกัดของการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า
- มีการพักฟื้นนาน 1-2 สัปดาห์
- ต้องผ่านการดูแลและดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
2. การยกกระชับหน้าด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (HIFU)
HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิวลึกถึง SMAS โดยไม่ต้องผ่าตัด ความร้อนจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับ ลดริ้วรอย และช่วยยกกระชับหน้าได้ เพราะสามารถเข้าถึงชั้นใต้ผิวหนังที่เป็นสาเหตุของความหย่อนคล้อย หลายคนสงสัยว่า ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด สำหรับผู้ที่กลัวการผ่าตัด HIFU จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ข้อดีของการยกกระชับหน้าด้วย HIFU
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- ทำทรีตเมนต์ใช้เวลาสั้น ประมาณ 30-60 นาที
- ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ตั้งแต่ 1-3 เดือนหลังทำ
ข้อจำกัดของการยกกระชับหน้าด้วย HIFU
- ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าการผ่าตัด
- อาจรู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนระหว่างทำ
- ต้องทำซ้ำทุก 1-2 ปีเพื่อรักษาผลลัพธ์
3. การยกกระชับหน้าด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Thermage)
Thermage เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยให้ผิวตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และเป็นอีกหนึ่งวิธียกกระชับหน้าที่ได้รับความนิยมเพราะไม่ต้องผ่าตัด
ข้อดีของการยกกระชับหน้าด้วย Thermage
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล สามารถกลับไปทำงานได้ทันที
- ทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นผล
- ปลอดภัยและเหมาะกับผิวทุกประเภท
ข้อจำกัดของการยกกระชับหน้าด้วย Thermage
- ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนในผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยมาก
- มีความรู้สึกร้อนและเจ็บระหว่างทำ
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี
4. การร้อยไหมยกกระชับหน้า
การร้อยไหมยกกระชับหน้าเป็นวิธีที่ใช้ไหมพิเศษสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกและดึงผิวให้ตึงขึ้น โดยมีหลายประเภท เช่น ไหมหนาม ไหมเกลียว ที่ช่วยยกผิวได้ต่างกัน ไหมจะค่อยๆ สลายตัวขณะที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับเล็กถึงปานกลาง หลายคนถามว่า ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็ว การร้อยไหมจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ข้อดีของการร้อยไหมยกกระชับหน้า
- มีแผลเล็กมาก ฟื้นตัวเร็ว
- เห็นผลทันทีหลังทำ
- สามารถเลือกร้อยเฉพาะจุดได้
ข้อจำกัดของการร้อยไหมยกกระชับหน้า
- อาจมีรอยจ้ำเขียว บวม หลังทำ 1-2 สัปดาห์
- ผลลัพธ์อยู่ได้ 1-2 ปี ต้องทำซ้ำ
- อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ไหมทะลุผิว หรือการติดเชื้อ
5. การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีเติมเต็มปริมาตรใบหน้าที่สูญเสียไป โดยใช้สารไฮยาลูโรนิกแอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความอิ่มของผิว ช่วยยกกระชับหน้า และลดริ้วรอย เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกได้อย่างดี โดยเฉพาะการเติมเต็มใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
- เห็นผลทันทีหลังฉีด
- ไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นน้อย
- สามารถแก้ไขเฉพาะจุดได้แม่นยำ
ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์
- อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น บวม จ้ำเขียว
- การฉีดมากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูผิดธรรมชาติ

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
6. การฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์เป็นสารที่ช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยจางลงและผิวดูเรียบเนียนขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และร่องคิ้ว การฉีดโบท็อกซ์บริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตาช่วยให้ตาดูกระชับและสดใสขึ้นได้ หลายคนนิยมใช้โบท็อกซ์ร่วมกับวิธียกกระชับหน้าอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิว
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์
- ทำได้รวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 15-30 นาที
- ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปทำงานได้ทันที
- ผลข้างเคียงน้อย
ข้อจำกัดของการฉีดโบท็อกซ์
- ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ต้องฉีดซ้ำ
- ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว
- การฉีดมากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าแข็งและไม่เป็นธรรมชาติ
7. การนวดยกกระชับใบหน้า
การนวดใบหน้าเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ลดอาการบวม และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว การนวดด้วยเทคนิคเฉพาะช่วยยกกระชับหน้า ลดริ้วรอย และช่วยแก้ไขปัญหาการสะสมของของเหลวได้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคำตอบว่า ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุดแบบธรรมชาติ การนวดใบหน้าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ข้อดีของการนวดยกกระชับใบหน้า
- เป็นวิธีธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียง
- ประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถทำเองที่บ้านได้
- ช่วยผ่อนคลายความเครียด
ข้อจำกัดของการนวดยกกระชับใบหน้า
- ต้องทำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผล
- ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนเท่าวิธีอื่นๆ
- ไม่เหมาะกับปัญหาหย่อนคล้อยรุนแรง
8. โยคะใบหน้า
โยคะใบหน้าเป็นการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าด้วยท่าต่างๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ช่วยยกกระชับหน้า ลดริ้วรอย และแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกได้ ท่าโยคะใบหน้าส่วนใหญ่จะเน้นการเกร็งและคลายกล้ามเนื้อใบหน้าและลำคอ เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและสามารถยกกระชับผิวได้ดีขึ้น
ข้อดีของโยคะใบหน้า
- ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา
- ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
ข้อจำกัดของโยคะใบหน้า
- ต้องทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
- เห็นผลช้า อาจต้องใช้เวลาหลายเดือน
- ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนในผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยมาก
9. การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยยกกระชับ
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยยกกระชับหน้า เช่น เปปไทด์ รีทินอล คอลลาเจน และสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวยืดหยุ่นและกระชับขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ช่วยแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกโดยเฉพาะ ซึ่งมักมีส่วนผสมที่ช่วยลดการสะสมของของเหลวใต้ตา
ข้อดีของการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
- ใช้งานง่าย สามารถทำเป็นประจำทุกวัน
- ไม่ต้องเสียเวลาไปคลินิก
- มีหลากหลายระดับราคาให้เลือก
ข้อจำกัดของการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
- เห็นผลช้าและไม่ชัดเจนเท่าการทำหัตถการ
- ต้องใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาผลลัพธ์
- ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์
10. การทำทรีตเมนต์ยกกระชับใบหน้าในคลินิก
การทำทรีตเมนต์ยกกระชับหน้าในคลินิกมีหลากหลายรูปแบบ เช่น การนวดกระชับใบหน้า การใช้เครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้า (EMS) การใช้เครื่องดูดสุญญากาศ และการใช้เครื่องไมโครเคอร์เรนต์ ซึ่งล้วนช่วยยกกระชับหน้าและแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ข้อดีของการทำทรีตเมนต์
- ไม่เจ็บ ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง
- มีผู้เชี่ยวชาญดูแลตลอดการทำทรีตเมนต์
- สามารถปรับแต่งทรีตเมนต์ให้เหมาะกับสภาพผิวได้
ข้อจำกัดของการทำทรีตเมนต์
- ต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อเห็นผลชัดเจน
- มีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อต้องทำหลายครั้ง
- ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับการยกกระชับใบหน้า
การเลือกวิธีการยกกระชับหน้าที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ แต่การดูแลหลังการทำหัตถการและการเลือกสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน หลายคนอาจยังสงสัยว่ายกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด แต่ต้องเข้าใจว่าแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน
การดูแลตัวเองหลังการยกกระชับ
การดูแลตัวเองหลังการยกกระชับหน้ามีความสำคัญต่อผลลัพธ์ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ทาครีมกันแดด ดื่มน้ำเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ควรงดการออกกำลังกายหนักๆ และหลีกเลี่ยงการแตะต้องบริเวณที่ทำหัตถการจนกว่าจะหายสนิท ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
การเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ
การเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือช่วยลดความเสี่ยงจากการทำหัตถการและเพิ่มโอกาสในการได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตถูกต้อง มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ มีอุปกรณ์ทันสมัย และมีผลงานที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการเลือกวิธียกกระชับหน้าที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
คำแนะนำในการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการยกกระชับหน้า ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและปัญหาที่เกิดขึ้น ควรเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติสุขภาพ ยาที่ใช้ประจำ และแจ้งความคาดหวังให้แพทย์ทราบ เพื่อให้แพทย์สามารถแนะนำว่า ยกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด สำหรับคุณ และต้องซักถามเกี่ยวกับความเสี่ยง ข้อควรระวัง และการดูแลหลังทำหัตถการอย่างละเอียด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการยกกระชับหน้า
การดึงหน้าด้วยเทคนิคการซ่อนแผล Invisible Lock แตกต่างจากเทคนิคดั้งเดิมอย่างไร
เทคนิค “Invisible Lock” เป็นเทคนิคการซ่อนแผลผ่าตัดที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดของวิธีดั้งเดิม โดยเน้นการซ่อนแผลผ่าตัดให้อยู่ในตำแหน่งที่สังเกตได้ยาก เช่น บริเวณไรผมหรือหลังใบหู ซึ่งแตกต่างจากการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่อาจมีรอยแผลยาวและมองเห็นได้ชัดกว่า
การดึงหน้าที่ BEAMS Clinic ไม่ใช่เพียงแค่การดึงผิวหนังให้ตึง แต่เป็นการ “ล็อก” ชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (SMAS) ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึงหรือดูเหมือน “หน้าดึง” นอกจากนี้ เทคนิค “Invisible Lock” ยังช่วยให้แผลมีขนาดเล็ก ลดอาการบวมช้ำ และใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวิธีดั้งเดิม
ผลลัพธ์จากการดึงหน้าจะอยู่ได้นานกี่ปี และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์จากการผ่าตัดดึงหน้าสามารถคงอยู่ได้ยาวนานตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดและปัจจัยส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์ให้คงอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ได้แก่
- การดูแลสุขภาพผิวอย่างสม่ำเสมอ
- การปกป้องผิวจากแสงแดดโดยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว
- การหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- การรักษาน้ำหนักให้คงที่
ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยชะลอการเกิดความหย่อนคล้อยใหม่ ทำให้ผลลัพธ์จากการดึงหน้าอยู่กับเราไปได้นานที่สุด
ตำแหน่งแผลผ่าตัดดึงหน้าจะอยู่บริเวณไหน และจะเห็นได้ชัดเจนหรือไม่
ตำแหน่งของแผลผ่าตัดดึงหน้าจะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ศัลยแพทย์เลือกใช้ โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะพยายามซ่อนรอยแผลให้อยู่ในบริเวณที่สังเกตได้ยากที่สุด เช่น ตามแนวไรผม บริเวณขมับ ในร่องธรรมชาติหน้าใบหู
โปรแกรมร้อยไหมยกกระชับหน้าเฉพาะจุดได้หรือไม่
การร้อยไหมสามารถทำเพื่อยกกระชับเฉพาะจุดบนใบหน้าได้ โดยเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยไม่มาก หรือต้องการแก้ไขปัญหาเฉพาะส่วน เช่น ยกหางตา ยกมุมปาก หรือกระชับกรอบหน้าบริเวณกรามและแก้มส่วนล่าง ศัลยแพทย์จะทำการประเมินและออกแบบการร้อยไหมให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคล โดยจะสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ผิวหนังในตำแหน่งที่ต้องการยกกระชับ ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ
ยกกระชับหน้าด้วยโปรแกรมการร้อยไหม กับโปรแกรม Hifu ต่างกันอย่างไร
การร้อยไหมและ Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) เป็นสองโปรแกรมยกกระชับใบหน้าที่ได้รับความนิยม แต่มีหลักการทำงานและให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
- การร้อยไหม เป็นการใช้เส้นไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อ “ดึง” หรือ “ยก” ผิวที่หย่อนคล้อยขึ้นมาทันที และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม ทำให้ผิวเฟิร์มกระชับขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจนและทันที
- การทำ Hifu เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงส่งพลังงานลงไปใต้ผิวหนังเพื่อกระตุ้นให้เนื้อเยื่อชั้น SMAS เกิดการหดตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ โดยผิวจะค่อยๆ ตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ Hifu จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยไม่มากและต้องการฟื้นฟูสภาพผิวโดยไม่ต้องใช้เข็มหรือไม่ต้องการพักฟื้น

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
สรุปเกี่ยวกับวิธียกกระชับใบหน้า
การยกกระชับหน้ามีหลากหลายวิธีให้เลือกตามความเหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของปัญหา ตั้งแต่วิธีธรรมชาติอย่างการนวดและโยคะใบหน้า ไปจนถึงการทำหัตถการทางการแพทย์อย่างการผ่าตัดยกกระชับหน้าและทรีตเมนต์ต่าง ๆ หมอหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจและเลือกว่ายกกระชับหน้าวิธีไหนดีที่สุด สำหรับตัวเองได้ค่ะ
หากใครมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย อยากรับบริการเข้าโปรแกรมดึงหน้า BEAMS plastic surgery พร้อมดูแลทุกปัญหาโดย หมอบีม Facial Expert และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า สามารถเข้ามาปรึกษาเพื่อหาแนวทางแก้ไขและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดร่วมกัน สอบถามกับ หมอบีม Facial Expert ได้โดยตรงผ่านช่องทางต่างๆ ได้เลยนะคะ