หมวดความรู้ทั่วไป

5 วิธีลดริ้วรอยหน้าผาก ทำยังไงให้ผิวดูดึงอ่อนเยากว่าเดิม

วิธีลดริ้วรอยหน้าผาก

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

ริ้วรอยหน้าผาก ถือเป็นสัญญาณแห่งวัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะเป็นจุดที่สังเกตเห็นได้ง่ายและทำให้ใบหน้าดูมีอายุเกินจริง หลายคนจึงพยายามหาวิธีแก้ไข ตั้งแต่การทาครีมบำรุงไปจนถึงการทำหัตถการต่าง ๆ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและเหมาะกับปัญหาริ้วรอยในระดับที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงสาเหตุ ประเภทของริ้วรอย พร้อมแนะนำ 5 วิธีลดริ้วรอยหน้าผากที่จะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้คุณอีกครั้งค่ะ

ริ้วรอยบนหน้าผากมีกี่ประเภท

ก่อนจะไปดูวิธีแก้ไข เรามาทำความรู้จักประเภทของริ้วรอยหน้าผากกันก่อน เพื่อให้สามารถเลือกวิธีจัดการได้อย่างเหมาะสม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ค่ะ

  • ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ (Dynamic Wrinkles) คือริ้วรอยที่จะปรากฏขึ้นเมื่อเราแสดงสีหน้า เช่น การเลิกคิ้ว การขมวดคิ้ว หรือการยิ้ม เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ริ้วรอยประเภทนี้มักจะหายไปเมื่อใบหน้ากลับสู่ภาวะปกติ และมักพบได้ในคนหนุ่มสาว
  • ริ้วรอยแบบถาวร (Static Wrinkles) คือริ้วรอยที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ก็ตาม ริ้วรอยประเภทนี้เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ซึ่งเป็นผลมาจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงการแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เป็นเวลานานจนเกิดเป็นร่องลึกถาวร

สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยหน้าผาก

การเกิดริ้วรอยบนหน้าผากไม่ได้มาจากปัจจัยเรื่องอายุเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่กระตุ้นให้เกิดริ้วรอยได้เร็วขึ้น ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่เราควรทำความเข้าใจ มีดังนี้

  • อายุที่มากขึ้นและการเสื่อมสภาพของผิว เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ ผิวจึงบางลงและเกิดเป็นริ้วรอยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะริ้วรอยหน้าผากที่เห็นได้ชัดเจน
  • การแสดงสีหน้าและการขมวดคิ้วบ่อย ๆ การแสดงอารมณ์ผ่านใบหน้าซ้ำ ๆ เป็นประจำ เช่น การเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ หรือการขมวดคิ้วเมื่อเครียด จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากทำงานหนักและเกิดการหดตัวซ้ำ ๆ จนกลายเป็นร่องลึกถาวรในที่สุด
  • การสัมผัสแสงแดดและรังสียูวี รังสียูวีในแสงแดดคือตัวการสำคัญที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอลงและเกิดริ้วรอยก่อนวัย การไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำจึงเป็นการเร่งให้เกิดริ้วรอยหน้าผากได้เร็วขึ้น
  • ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งทำลายคอลลาเจน ส่วนการนอนหลับไม่เพียงพอจะขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ ทั้งสองปัจจัยนี้ส่งผลให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ สารนิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบตัน ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงผิวได้น้อยลง ส่วนแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดน้ำและผิวแห้งกร้าน พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเร่งกระบวนการชราของผิวให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
รวมวิธีลดริ้วรอยหน้าผาก

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

5 วิธีลดริ้วรอยหน้าผาก

เมื่อทราบถึงประเภทและสาเหตุของการเกิดริ้วรอยหน้าผากแล้ว ก็ถึงเวลามาดูแนวทางการแก้ไขและป้องกัน ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้ถึง 5 วิธี ตั้งแต่วิธีง่าย ๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเองไปจนถึงการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญ

1. การบำรุงผิวและปกป้องผิวจากแสงแดด

พื้นฐานของการมีผิวสุขภาพดีคือการบำรุงและปกป้อง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนริ้วรอย เช่น เรตินอล, เปปไทด์, หรือไฮยาลูรอนิกแอซิด จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดและขาดไม่ได้เลยคือ “การทาครีมกันแดด” เป็นประจำทุกวัน โดยควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี ตัวการหลักที่ทำลายผิวและทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย การทำสองสิ่งนี้ควบคู่กันจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่และทำให้ริ้วรอยเดิมดูตื้นขึ้นได้

2. การนวดหน้าผากเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

การนวดเป็นวิธีที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ คุณสามารถนวดหน้าผากเบา ๆ ด้วยตัวเองโดยใช้นิ้วมือหรืออุปกรณ์นวดหน้า เริ่มจากการใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางกดเบา ๆ บริเวณระหว่างคิ้ว แล้วค่อย ๆ ลูบขึ้นไปในแนวตั้งจนถึงตีนผม จากนั้นลูบออกไปด้านข้างขมับ ทำซ้ำ ๆ ประมาณ 5-10 นาทีทุกวัน การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายลง ทำให้ริ้วรอยหน้าผากดูจางลงได้เมื่อทำเป็นประจำ

3. การปรับพฤติกรรมและดูแลสุขภาพ

การดูแลตัวเองจากภายในเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ควรเริ่มจากการปรับพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย เช่น พยายามหลีกเลี่ยงการขมวดคิ้วหรือเลิกคิ้วโดยไม่จำเป็น จัดการความเครียดด้วยการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น โยคะ นั่งสมาธิ รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ผิวได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผักและผลไม้ ก็เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวจากภายใน

4. หัตถการทางการแพทย์

สำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยหน้าผากที่เริ่มชัดเจนขึ้น การดูแลผิวเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ปัจจุบันมีหัตถการทางการแพทย์มากมายที่ไม่ต้องผ่าตัดและสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เช่น

  • โบท็อก (Botox) เป็นการฉีดสารเพื่อคลายการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับริ้วรอยประเภท Dynamic Wrinkles
  • ฟิลเลอร์ (Fillers) เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น เหมาะสำหรับริ้วรอยแบบถาวร (Static Wrinkles) ที่มองเห็นแม้ไม่ได้ขยับใบหน้า
  • เลเซอร์และเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Ultherapy หรือ Thermage ซึ่งใช้พลังงานคลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ช่วยให้ผิวตึงกระชับและริ้วรอยดูจางลง

5. ศัลยกรรมดึงหน้าผากแก้ริ้วรอยลึกถาวร

ในกรณีที่มีปัญหาริ้วรอยหน้าผากที่เป็นร่องลึกลงไปในชั้นผิวอย่างถาวร ร่วมกับปัญหาคิ้วตก หนังตาตก ซึ่งการทำหัตถการอื่น ๆ อาจไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมด “การศัลยกรรมดึงหน้าผาก (Forehead Lift)” ถือเป็นทางเลือกที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดและให้ผลลัพธ์ที่ถาวร 

การผ่าตัดนี้เป็นการเข้าไปแก้ไขโครงสร้างใต้ชั้นผิว ทั้งการยกกระชับกล้ามเนื้อและผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ปัจจุบันมีเทคนิคการผ่าตัดที่ทันสมัยอย่างการใช้กล้อง Endoscopic หรือเทคนิคส่องกล้องดึงหน้าซึ่งมีข้อดีคือแผลผ่าตัดจะมีขนาดเล็กมาก ซ่อนอยู่บริเวณไรผม ทำให้เจ็บน้อยและพักฟื้นได้เร็ว การผ่าตัดดึงหน้าผากไม่เพียงแต่ช่วยให้ริ้วรอยหน้าผากเรียบเนียนขึ้น แต่ยังช่วยยกคิ้วและเปลือกตา ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใสและอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ

คุณหมออยากบอก

“เมื่อผิวหน้าผากเริ่มมีรอยพับจากการขยับกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ หากไม่ได้รับการดูแลอาจกลายเป็นร่องลึกได้ หมอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและเลือกวิธีลดริ้วรอยที่เหมาะสมกับแต่ละคนค่ะ” 

หมอบีม Facial Expert, BEAMS Plastic Surgery

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับริ้วรอยหน้าผาก

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยหน้าผากเห็นผลทันทีหรือไม่ และผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

หลังฉีดโบท็อกซ์จะยังไม่เห็นผลลัพธ์ในทันทีนะคะ โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มรู้สึกว่ากล้ามเนื้อขยับได้น้อยลงและริ้วรอยเริ่มจางลงในช่วง 3-7 วันหลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่ที่สุดในสัปดาห์ที่ 2 ค่ะ ส่วนผลลัพธ์นั้นจะคงอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน ซึ่งระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ ปริมาณที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีด

การผ่าตัดดึงหน้าผากเหมาะกับใคร และแตกต่างจากการฉีดโบท็อกซ์อย่างไร

การผ่าตัดดึงหน้าผากจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยหน้าผากที่เป็นร่องลึกถาวร (Static Wrinkles) ที่มองเห็นชัดแม้ไม่ได้แสดงสีหน้า และมักจะมีภาวะคิ้วตกหรือหนังตาเริ่มหย่อนคล้อยร่วมด้วยค่ะ ส่วนการฉีดโบท็อกซ์จะเน้นไปที่การแก้ปัญหาริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ (Dynamic Wrinkles) โดยตรง ดังนั้น ข้อแตกต่างที่สำคัญคือ การดึงหน้าผากเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขโครงสร้างที่หย่อนคล้อยให้ผลลัพธ์ถาวร ในขณะที่โบท็อกซ์เป็นการคลายกล้ามเนื้อชั่วคราวเพื่อลดริ้วรอยจากการขยับ

ริ้วรอยหน้าผากที่ยังไม่ลึกมาก ควรเริ่มดูแลด้วยวิธีไหนดีที่สุด?

สำหรับริ้วรอยที่เพิ่งเริ่มต้นหรือยังเป็นเส้นบาง ๆ แนะนำให้เริ่มจากการดูแลขั้นพื้นฐานให้แข็งแรงก่อนเป็นอันดับแรกเลยค่ะ โดยเน้นการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยชะลอวัย เช่น เรตินอล หรือเปปไทด์ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และที่สำคัญที่สุดคือการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ ทุกวันไม่มีวันหยุด เพราะเป็นการป้องกันไม่ให้ริ้วรอยใหม่เกิดขึ้นและป้องกันไม่ให้ริ้วรอยเดิมเข้มขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชะลอปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ 

ถ้ามีริ้วรอยหน้าผากแล้ว สามารถนวดหน้าเพื่อให้ริ้วรอยหายไปถาวรได้หรือไม่?

การนวดหน้าเป็นวิธีที่ดีในการช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจทำให้ริ้วรอยตื้น ๆ ที่เกิดจากความเครียดดูจางลงได้บ้างชั่วคราว แต่การนวดไม่สามารถเข้าไปแก้ไขโครงสร้างผิวที่สูญเสียคอลลาเจนไปแล้วได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถทำให้ริ้วรอยร่องลึกที่มีอยู่เดิมหายไปอย่างถาวรได้ค่ะ

สรุปปัญหาริ้วรอยหน้าผาก

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

สรุปบทความ

การจัดการกับปัญหาริ้วรอยหน้าผากมีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การดูแลผิวขั้นพื้นฐาน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์และศัลยกรรม ซึ่งแต่ละวิธีก็มีความเหมาะสมกับระดับความรุนแรงของปัญหาที่แตกต่างกันออกไป สิ่งสำคัญคือการเลือกแนวทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด หากใครมีปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยร่องลึกบริเวณหน้าผาก BEAMS Plastic Surgery พร้อมดูแลทุกปัญหา โดย หมอบีม และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า สามารถเข้ามาปรึกษาเพื่อหาแนวทางแก้ไขและวางแผนผลลัพธ์ที่สวยงามร่วมกัน สอบถามกับหมอบีม Facial Expert ผ่านช่องทางต่าง ๆ มาได้เลยค่ะ

บทความโดย : พญ.คุณาภรณ์ ตั้งธนะวัฒน์ (หมอบีม)

ศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้าเฉพาะทาง

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

กรอกข้อมูล ให้เราติดต่อกลับ

Becoming Your Best Self

เข้าใจทุกความกังวลและปัญหาผิวพรรณของคุณ
ด้วยการรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล