ทำตาสองชั้น แก้ตาหลบใน
(EYELID SURGERY)
คนไข้ทำตาสองชั้นของหมอ ในเคสที่อายุยังไม่มาก ส่วนใหญ่มาด้วยภาวะตาหลบใน หรือมีลักษณะตาชั้นเดียว เลยอยากทําตา 2 ชั้น แต่ถ้าเริ่มมีอายุ มักจะมาด้วยปัญหาหนังตาตก ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ก็สามารถทำตาสองชั้น และตกแต่งหนังตาส่วนเกิน ทำให้ชั้นตาชัดขึ้น ดูสวยขึ้น พร้อมแก้ปัญหาหนังตาตก และดึงกล้ามเนื้อตาร่วมด้วย ทำให้หลายคนสงสัยว่าหนังตาตก เกิดจากอะไร? หนังตาตก แก้ยังไง? และจะทําตา 2 ชั้นที่ไหนดี? เพราะการทำตาสองชั้นแต่ละที่ ก็มักจะใช้เทคนิคที่ไม่เหมือนกัน แล้วต้องใช้เทคนิคแบบไหน กรีดสั้น หรือกรีดยาว ถึงจะช่วยแก้ไขปัญหาตาของเราได้เหมาะสมที่สุด หมอจะมาสรุปให้ฟังค่ะ
กรณีตาชั้นเดียวหลบใน
ลักษณะตาชั้นเดียว ตาหลบใน หรือ ชั้นตาหลบใน ที่อาจเป็นลักษณะตาชั้นเดียวหลบใน หรือตาสองชั้นหลบใน เกิดจากไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ในเปลือกตา ทำให้เวลาลืมตาแล้วมองไม่เห็นชั้นตา ชั้นตาแคบ ตาดูเล็ก แววตาไม่สดใส บางกรณีอาจมีภาวะชั้นตาไม่เท่ากันร่วมด้วย ทำให้แต่งหน้ายาก จนต้องติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้น แล้วยังอาจส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ จนหลายคนเลือกที่จะทำตาสองชั้น ซึ่งในกรณีนี้ สามารถทำตาสองชั้น แบบกรีดสั้น เพื่อช่วยให้ชั้นตาชัดขึ้น ไม่เป็นตาหลบใน ตาดูโต ดูตาหวานและสดใสมากขึ้นได้
กรณีที่มีภาวะหนังตาตก อาจเกิดจาก
2 สาเหตุหลักๆ
- หนังตาตกจากเปลือกตาหย่อนคล้อย (Dermatochalasis) อาจเกิดจากลักษณะทางพันธุกรรม ร่วมกับภาวะผิวเปลือกตาเสียความยืดหยุ่นลงตามวัย ทำให้หนังตาหย่อนบังขอบตาบน รวมถึงการมีไขมันเปลือกตาหนาเบียดชั้นตา โดยเฉพาะหนังตาช่วงหางตาจะตกก่อนบริเวณอื่น ทำให้หางตาตก ลู่ลงด้านข้าง ตาดูเศร้า ดูเหนื่อยล้า แววตาไม่สดใส
- หนังตาตกจากกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง (Ptosis)
กล้ามเนื้อที่ใช้ในการลืมตาอ่อนแรง ทำให้ขอบตาปิดทับตาดำมากกว่าปกติ จนอาจบังรูม่านตา ทำให้ดูตาปรือ ชั้นตาสูง ชั้นตาซ้อนกันหลายชั้น ตาง่วง ตาล้า เบ้าตาดูลึก ตาไม่สดใส คิ้วกับชั้นตาดูไม่เท่ากัน และอาจส่งผลต่อการมองเห็น จนต้องพยายามเบิ่งตา ด้วยการใช้กล้ามเนื้อหน้าผากช่วยยกหนังตาขึ้น ทำให้เกิดริ้วรอยหน้าผากตามมา สามารถทำตาสองชั้น แบบกรีดยาว ร่วมกับการปรับกล้ามเนื้อตา เพื่อแก้ไขกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง ช่วยให้ชั้นตาชัดขึ้น ตาไม่ปรือ ตาไม่ง่วง หนังตาไม่หย่อนคล้อย ดูสดใสขึ้น
การทำตาสองชั้น คืออะไร? หมอบีม Facial Expert มีคำตอบ
การทำตาสองชั้น นอกจากจะช่วยแก้ไขภาวะตาสองชั้นหลบใน ชั้นตาไม่เท่ากัน ให้ชั้นตาชัด ตาหวานขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แก้ปัญหาหนังตาตก รวมถึงหนังตาหย่อนคล้อยอย่างได้ผลแล้ว ยังช่วยแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง ให้หายจากอาการตาปรือ ตาตก ตาง่วงได้อย่างตรงจุด ซึ่งปัจจุบันการทำตาสองชั้น มี 2 เทคนิค ที่แพทย์นิยมใช้ เพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาหนังตาตก ตาหลบใน และแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การทำตาสองชั้น เทคนิคกรีดสั้น (Short incision) เป็นการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณเปลือกตาขนาดเล็กมาก จนมองแทบไม่เห็น เพียง 3-5 mm. และนำไขมันส่วนเกินออก เหมาะกับเคสที่ไม่มีหนังตาตก และไขมันชั้นตายังไม่มาก หลังทำแทบไม่บวมช้ำ ชั้นตาเข้าที่เร็ว ใช้เวลาพักฟื้นน้อย เมื่อแผลหายจะดูเนียนเหมือนรอยพับชั้นตาตามธรรมชาติ ช่วยให้ชั้นตาสวย ชั้นตาชัด ไม่มีปัญหาตาหลบใน ตาดูหวาน สดใสขึ้น
- การทำตาสองชั้น เทคนิคกรีดยาว (Long incision) เป็นการผ่าตัดสร้างชั้นตา พร้อมตกแต่งไขมันเปลือกตา สามารถทำร่วมกับการแก้ไขกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรงได้ โดยเปิดแผลเพื่อปรับระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตา และเย็บแผลบริเวณเปลือกตาอย่างประณีต เพื่อให้ได้ชั้นตาที่สวยงาม และยังสามารถแก้ปัญหาหนังตาตก กล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง ให้ตาชั้นตาชัด ตาไม่ปรือ ตาไม่ง่วง ดวงตาดูสดใสขึ้น เทคนิคนี้ เหมาะกับคนที่มีปัญหาหนังตาตก เปลือกตาหย่อนคล้อย มีหนังตาเกิน หรือไขมันเปลือกตาเยอะ
ปัญหาที่เหมาะกับการทำตาสองชั้น
- หนังตาเกิน มีไขมันเปลือกตาหนา ทำให้เกิดปัญหา ตาชั้นเดียว ตาหลบใน ตาชั้นเดียวหลบใน ชั้นตาหลบใน ชั้นตาไม่เท่ากัน
- หนังตาตก หนังตาหย่อนคล้อย หนังตาเกิน ทำให้เกิดปัญหาหนังตาตกบังการมองเห็น หนังตาม้วนเข้า หรือขนตาทิ่มตา
- กล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง ทำให้เกิดปัญหาตาปรือ ตาตก ภาวะเลิกคิ้วสูง ตาขี้เกียจ เบ้าตาลึก ตาไม่เท่ากัน
การทำตาสองชั้น เหมาะกับใคร?
- คนที่มีลักษณะตาชั้นเดียว และต้องการทำตาสองชั้น
- คนที่มีปัญหาตาหลบใน หรือชั้นตาหลบใน
- คนที่ชั้นตาไม่เท่ากัน หรือตาไม่เท่ากัน
- คนที่มีภาวะหนังตาตก บังการมองเห็น หรือมีปัญหาขนตาทิ่มตา
- คนที่มีลักษณะตาปรือ ตาตก จากภาวะกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง
- คนที่ทำตาสองชั้นมาแล้ว ต้องการแก้ตาสองชั้น
การทำตาสองชั้น แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
- ช่วยเปลี่ยนลุค จากคนที่มีตาชั้นเดียว ให้มีตาสองชั้น ดูตาหวานขึ้น
- แก้ปัญหาตาหลบใน ให้ชั้นตาชัด ตาดูโตขึ้น ดวงตาสดใสขึ้น
- แก้หนังตาตก ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น มองภาพได้ชัดเจนขึ้น
- แก้ไขภาวะหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาม้วนเข้า
- แก้ไขภาวะขนตาทิ่มตา ที่อาจทำให้เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง เคืองตา น้ำตาไหล
- ปรับกล้ามเนื้อตา ให้สามารถออกแรงได้เท่ากัน หมดปัญหาตาปรือ ตาตก ตาดูเท่ากัน ตาดูโตและดูสดใสมากขึ้น
- แก้ปัญหาจากการทำตาสองชั้นมาแล้ว แต่เกิดปัญหาที่ทำให้ต้องแก้ตา เช่น ชั้นตาหลุด ชั้นตาไม่เท่ากัน ชั้นตาใหญ่ มีชั้นตาซ้อนกันหลายชั้น เป็นต้น
ข้อดีของการทำตาสองชั้น (Eyelid Surgery)
- ชั้นตาชัดเจน ตาดูโต และสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- แก้หนังตาตก แก้ไขความหย่อนคล้อยของผิวเปลือกตาอย่างตรงจุด
- เย็บแผลอย่างประณีต แผลเล็กพิเศษ ทำให้ไม่เห็นแผล หายไว เข้าที่เร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ สวยได้ยาวนาน
- เป็นหัตถการผ่าตัดเล็ก ที่ช่วยย้อนวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชมวิดีโอ ปัญหาหนังตาตก ต้องเลือกทำศัลยกรรมด้วยวิธีไหน “ตัดหนังตา vs Foxy Eye” แบบไหนดีกว่ากัน ??
Reviews
ทำตาสองชั้น แก้ปัญหาหนังตาตก กล้ามเนื้ออ่อนแรง
FAQ คำถามยอดฮิต ของการทำตาสองชั้น
หลังทำตา 2 ชั้น อาจมีอาการบวมช้ำได้บ้าง ในช่วง 7 วันแรก หรือมีอาการตึงบริเวณแผล ซึ่งจะลดน้อยลง จนหายสนิทได้เอง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน แผลผ่าตัดจะเริ่มเข้าที่จนเห็นชั้นตาชัดเจน ในช่วง 1 เดือนขึ้นไป และชั้นตาจะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
การประคบเย็น สามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ในช่วง 1-3 วันแรกหลังผ่าตัด จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นประคบอุ่น เพื่อช่วยลดบวม ให้แผลเข้าที่ได้เร็วขึ้น
ในขั้นตอนของการศัลยกรรมตา 2 ชั้น คุณหมอจะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณผิวเปลือกตา ก่อนลงมือผ่าตัด ทำให้ระหว่างทำการผ่าตัด ผู้รับบริการจะอยู่ในภาวะชาบริเวณเปลือกตา ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจจะรับรู้ถึงสัมผัสจากมือคุณหมอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แผลบริเวณเปลือกตาจากการกรีดตาสองชั้น จะเข้าสู่กระบวนการหายของแผลผ่าตัดตามธรรมชาติ เมื่อแผลสมานกันดีและหายสนิทแล้ว รอยผ่าตัดจะค่อยๆ จางลง จนมีลักษณะเป็นเส้นบางๆ มีสีใกล้เคียงกับสีผิวของผู้รับบริการ และค่อยๆ เข้าที่ จนไม่เหลือรอยแผล มีเพียงรอยพับชั้นตาที่เหมือนกับชั้นตาตามธรรมชาติ
หลังทำตาสองชั้นแล้ว ช่วยให้ชั้นตาชัด ดวงตาดูสดใส ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก เป็นหัตถการที่ทำแล้วให้ผลลัพธ์ชั้นตาชัดเจน สวยได้ยาวนาน แต่ในบางเคสเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ก็มีโอกาสเกิดภาวะหนังตาตกเบียดชั้นตา จากปัญหาตาตกตามวัย รวมถึงไขมันสะสมในเปลือกตา หรือเกิดภาวะหนังตาตกจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้เกิดปัญหาตาปรือ ตาตก มองไม่เห็นชั้นตา ก็สามารถทำตาสองชั้นซ้ำได้
การทำตาสองชั้น สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์อยู่เป็นประจำ ในวันนัดทำตาสองชั้น หมอแนะนำว่า ควรงดเว้นการใส่คอนแทคเลนส์ก่อนผ่าตัด และหลังผ่าตัดประมาณ 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงสามารถกลับมาใส่ได้ตามปกติ
เทคนิคการทำตาสองชั้น ที่แพทย์ BLS Surgery Center ใช้ในการผ่าตัดตกแต่งเปลือกตาให้เป็นตาสองชั้นที่สวยงามนั้น แบ่งออกเป็น 2 เทคนิค
- การทำตาสองชั้น เทคนิคกรีดสั้น (Short incision) เหมาะกับคนอายุน้อย ที่ไม่มีปัญหาหนังตาตก หนังตาเกิน ชอบชั้นตาแบบธรรมชาติ คล้ายกับการศัลยกรรมตาเกาหลี
การทำตาสองชั้น เทคนิคกรีดยาว (Long incision) เหมาะกับคนที่มีไขมันหนังตามาก มีหนังตาเกิน เช่น คนที่เริ่มมีอายุมาก คนที่มีไขมันสะสมบริเวณเปลือกตามาก มีลักษณะเปลือกตาหย่อนคล้อย หรือคนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
สามารถทำได้อย่างแน่นอน ส่วนใหญ่แล้วคนไข้ทำตาสองชั้นผู้ชาย จะมาด้วยปัญหาหนังตาตก ทำให้ตาดูเศร้า ดูเหนื่อย ไม่สดใส และดูมีอายุ ไม่ได้ต้องการทำตาสองชั้น เพื่อให้ตาหวาน ชั้นตาชัดเจนแบบผู้หญิง ด้วยประสบการณ์ทำตาสองชั้นให้กับคนไข้เพศชายมาเป็นจำนวนมาก ทำให้หมอเข้าใจความต้องการ รวมถึงโครงสร้างดวงตาของผู้ชายเป็นอย่างดี จึงสามารถแก้ไขปัญหาตา พร้อมกับออกแบบชั้นตาที่คมชัด ดูดี เป็นธรรมชาติ และเหมาะสมกับคนไข้ผู้ชายในแต่ละเคสโดยเฉพาะ
- เลือกคลินิกทำตา โดยตรวจสอบข้อมูลคลินิกหรือสถานพยาบาล โดยนำชื่อคลินิก หรือเลขใบอนุญาต ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ https://hosp.hss.moph.go.th/ หากเป็นคลินิกที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข ในหน้านั้นจะปรากฎชื่อสถานพยาบาล สถานที่ตั้ง เลขที่ใบอนุญาตประกอบกิจการ และวันหมดอายุ ไว้อย่างชัดเจน เป็นการการันตีว่าคลินิกทำตานั้นเปิดให้บริการอย่างถูกต้องและได้มาตรฐาน
- เลือกหมอทำตา โดยตรวจสอบข้อมูลแพทย์ผู้ทำหัตถการ ในเว็บไซต์ของแพทยสภา https://www.tmc.or.th/ เพื่อให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าบุคคลนั้นเป็นแพทย์จริงไหม? ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างถูกต้องหรือไม่? มีสถานะความรู้ความชำนาญเฉพาะทางที่แพทยสภารับรองในสาขาใดบ้าง?
การตรวจสอบข้อมูล 2 ข้อในเบื้องต้น จะช่วยให้ผู้รับบริการได้รับการทำหัตถการจากหมอทำตาเฉพาะทางที่มีความชำนาญ ในคลินิกทำตาที่มีมาตรฐานได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการผ่าตัดได้เป็นอย่างดี