ความรู้ทั่วไป

หน้าไม่เท่ากันเกิดจากอะไร ปรับรูปหน้าวิธีไหนดีที่สุด

หน้าไม่เท่ากันเกิดจากอะไร

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

ปัญหาหน้าไม่เท่ากันเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและเกิดขึ้นได้กับทุกคน หลายคนอาจรู้สึกว่าเป็นปัญหากวนใจ ทำให้ขาดความมั่นใจเวลาถ่ายรูปหรือพบปะผู้คน สาเหตุของภาวะหน้าไม่เท่ากันนั้นมีหลายประการ ตั้งแต่กรรมพันธุ์ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวัน วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟังว่าหน้าไม่เท่ากันเกิดจากอะไร พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกับแต่ละปัญหากันค่ะ

หน้าไม่เท่ากันเกิดจากสาเหตุอะไร

ภาวะหน้าไม่เท่ากันหรือใบหน้าอสมมาตรเป็นภาวะปกติที่พบได้เกือบทุกคน เพียงแต่บางคนอาจมีความชัดเจนมากกว่าคนอื่น ทำให้เกิดความกังวล มาดูกันว่าหน้าไม่เท่ากันเกิดจากอะไรบ้าง

กรรมพันธุ์

หน้าไม่เท่ากันสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ค่ะ หากบุคคลในครอบครัวมีลักษณะโครงสร้างใบหน้าที่ไม่สมมาตร คุณอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นเช่นกัน เพราะกระดูกใบหน้า โครงสร้างกล้ามเนื้อ และการกระจายของไขมันล้วนได้รับอิทธิพลจากยีนที่ถ่ายทอดมาจากพ่อและแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้แต่สามารถปรับแก้ได้ด้วยวิธีต่าง ๆ

การเจริญเติบโตของกระดูกส่วนใบหน้า

ระหว่างการเจริญเติบโต กระดูกบริเวณใบหน้าอาจมีการพัฒนาที่ไม่เท่ากันระหว่างซีกซ้ายและขวา ทำให้เกิดภาวะหน้าไม่เท่ากัน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาจส่งผลให้กระดูกขากรรไกรหรือโหนกแก้มเติบโตไม่สมดุลกัน ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขอาจคงอยู่ตลอดไปและอาจชัดเจนเมื่ออายุมากขึ้น

อาการจากโรคบางชนิด 

โรคบางชนิดสามารถทำให้เกิดภาวะหน้าไม่เท่ากันได้ เช่น โรคกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก (Bell’s Palsy) ที่ทำให้เกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้าเฉพาะด้าน ทำให้หน้าเบี้ยวและการแสดงออกทางสีหน้าไม่สมมาตร หรือโรคคอเอียง (Torticollis) ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อคอผิดปกติ ส่งผลให้ศีรษะเอียงและใบหน้าไม่อยู่ในแนวตรง รวมถึงโรคข้อต่อขากรรไกรผิดปกติที่ทำให้กรามซ้ายขวาไม่เท่ากัน

พฤติกรรมการใช้ชีวิต

พฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันสามารถส่งผลให้เกิดหน้าไม่เท่ากัน แก้ยังไงจึงต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรมค่ะ เช่น การเคี้ยวอาหารเฉพาะด้านใดด้านหนึ่งเป็นประจำทำให้กล้ามเนื้อบดเคี้ยวพัฒนาไม่เท่ากัน การนอนทับหน้าด้านเดียวเป็นประจำ การกัดฟันหรือบดฟัน และการเล่นสมาร์ตโฟนในท่าที่ก้มคอมากเกินไปเป็นเวลานาน

อาการหลังทำทันตกรรม

การรักษาทางทันตกรรมบางประเภทอาจเป็นสาเหตุของการเกิดหน้าไม่เท่ากันได้ค่ะ เช่น การถอนฟันกรามที่ไม่สมดุล การใส่ฟันปลอมหรือการทำฟันที่ไม่พอดี การจัดฟันที่มีการดึงฟันไม่เท่ากันทั้งสองข้าง หรือการผ่าตัดถอนฟันคุดที่ทำให้เกิดการบวมเฉพาะที่ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลต่อโครงสร้างกระดูกใบหน้าและกล้ามเนื้อในระยะยาว

อุบัติเหตุ

อุบัติเหตุที่ส่งผลต่อใบหน้าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะหน้าไม่เท่ากัน เช่น การได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ การเล่นกีฬาที่มีการปะทะสูง การล้มหรือตกจากที่สูงกระแทกใบหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดกระดูกหัก กระดูกร้าว หรือการบาดเจ็บของเนื้อเยื่ออ่อน ส่งผลให้ใบหน้าสองข้างไม่สมมาตรกัน

สังเกตอย่างไรว่าใบหน้าไม่เท่ากัน

การสังเกตความไม่สมมาตรของใบหน้าสามารถทำได้ด้วยตนเองเบื้องต้นค่ะ โดยการสำรวจใบหน้าในกระจกหรือจากภาพถ่าย หากมีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างซีกซ้ายและขวา อาจเป็นสัญญาณของภาวะหน้าไม่เท่ากัน ลองสังเกตตามจุดต่าง ๆ ดังนี้

  • ระดับความสูงของตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน
  • ขนาดโหนกแก้มแตกต่างกันอย่างชัดเจน
  • มุมปากไม่อยู่ในระดับเดียวกัน
  • กรามหรือขากรรไกรล่างมีความกว้างหรือรูปทรงต่างกัน
  • จมูกเบี้ยวหรือเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
  • ริ้วรอยหรือร่องบนใบหน้าลึกไม่เท่ากัน
  • กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานไม่เท่ากันเมื่อแสดงสีหน้า

อย่างไรก็ตาม การประเมินความไม่สมมาตรของใบหน้าที่ถูกต้องควรได้รับการตรวจประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ เพราะแพทย์จะสามารถวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงและให้คำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงประเมินว่าความไม่สมมาตรนั้นอยู่ในระดับที่ต้องได้รับการแก้ไขหรือไม่

วิธีรักษาใบหน้าไม่เท่ากัน

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

วิธีรักษาใบหน้าไม่เท่ากัน 

เมื่อทราบสาเหตุของหน้าไม่เท่ากันแล้ว การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ หน้าไม่เท่ากัน แก้ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับบริเวณและความรุนแรงของปัญหาค่ะ มาดูวิธีแก้ไขตามแต่ละส่วนของใบหน้ากันค่ะ

โหนกแก้ม

บริเวณโหนกแก้มเป็นจุดที่มักพบความไม่สมมาตรได้บ่อย หากโหนกแก้มข้างหนึ่งสูงหรือนูนกว่าอีกข้าง จะทำให้เกิดภาวะหน้าไม่เท่ากันที่สังเกตได้ชัดเจน มีวิธีแก้ไขดังนี้:

  • ฉีดฟิลเลอร์ – การเสริมฟิลเลอร์ที่บริเวณโหนกแก้มข้างที่แบนกว่าช่วยให้ใบหน้าดูสมมาตรมากขึ้น เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ทันที แต่อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือนต้องฉีดซ้ำ
  • การผ่าตัดโหนกแก้ม – หากความไม่สมมาตรเกิดจากโครงสร้างกระดูก อาจจำเป็นต้องทำศัลยกรรมตกแต่งกระดูกโหนกแก้ม ซึ่งสามารถลดส่วนที่นูนเกินหรือเสริมส่วนที่แบนเกินไปด้วยการใช้วัสดุเทียมหรือการตัดแต่งกระดูก
  • การร้อยไหม – วิธีนี้ช่วยยกกระชับใบหน้าบริเวณโหนกแก้มที่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าไม่เท่ากันเล็กน้อยถึงปานกลาง

บริเวณแก้ม

บริเวณแก้มที่ไม่เท่ากันอาจเกิดจากการกระจายตัวของไขมันที่ไม่สมดุล หรือความหย่อนคล้อยที่แตกต่างกัน ทำให้ดูเป็นหน้าไม่เท่ากัน มีวิธีแก้ไขด้วยหัตถการดังนี้ค่ะ:

  • ฉีดโบท็อกซ์ – ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบดเคี้ยวที่ใหญ่เกินไปในข้างที่แก้มกว้างกว่า ทำให้ใบหน้าดูเรียวและสมมาตรมากขึ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อบดเคี้ยวแข็งแรงไม่เท่ากัน
  • ดูดไขมันแก้ม – สำหรับผู้ที่มีไขมันแก้มมากเกินไปในข้างใดข้างหนึ่ง การดูดไขมันออกเฉพาะจุดจะช่วยให้ใบหน้าสมดุลมากขึ้น วิธีนี้ให้ผลถาวรและฟื้นตัวเร็ว
  • ศัลยกรรมยกกระชับใบหน้า – ในกรณีที่เกิดจากความหย่อนคล้อยไม่เท่ากัน การผ่าตัดยกกระชับใบหน้าจะช่วยปรับโครงสร้างเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังให้สมมาตร ทำให้แก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริเวณกราม

กรามที่ไม่สมมาตรเป็นปัญหาหน้าไม่เท่ากันที่พบได้บ่อยและมักเห็นได้ชัดเมื่อมองจากด้านหน้าหรือเวลายิ้ม หากกรามข้างหนึ่งใหญ่หรือเล็กกว่าอีกข้าง มีวิธีแก้ไขดังนี้ค่ะ:

  • ฉีดโบท็อกซ์กราม – การฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อบดเคี้ยวบริเวณกรามข้างที่ใหญ่กว่าจะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้ขากรรไกรดูเล็กลงและสมมาตรมากขึ้น วิธีนี้ไม่ต้องผ่าตัดและฟื้นตัวเร็ว
  • การผ่าตัดปรับโครงสร้างกระดูกขากรรไกร – สำหรับกรณีที่มีความไม่สมมาตรรุนแรง การผ่าตัดจัดกระดูกขากรรไกรโดยศัลยแพทย์ตกแต่งจะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร แม้จะเป็นวิธีที่มีความซับซ้อนแต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว
  • การเสริมกรามด้วยซิลิโคนหรือฟิลเลอร์ – สำหรับกรามข้างที่เล็กกว่า สามารถเสริมให้ใหญ่ขึ้นด้วยวัสดุเทียมหรือฟิลเลอร์ ทำให้ใบหน้าสมดุลมากขึ้น เป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับการแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากัน

ป้องกันอย่างไรให้รูปหน้าสมดุลอยู่เสมอ

การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหน้าไม่เท่ากันทำได้ตั้งแต่เริ่มต้น โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือดูแลสุขภาพใบหน้าอย่างถูกวิธี มาดูวิธีการป้องกันและลดความเสี่ยงของภาวะใบหน้าไม่สมมาตรกันค่ะ:

  • เคี้ยวอาหารทั้งสองข้าง – ควรฝึกเคี้ยวอาหารให้สม่ำเสมอทั้งสองข้างเพื่อให้กล้ามเนื้อบดเคี้ยวทำงานเท่ากัน ซึ่งจะช่วยป้องกันการพัฒนาของกล้ามเนื้อบดเคี้ยวที่ไม่สมดุล ลองสังเกตตัวเองว่ามีนิสัยเคี้ยวด้านเดียวหรือไม่ หากมี ให้ปรับเปลี่ยนโดยฝึกเคี้ยวสลับไปมาทั้งสองข้างอย่างสม่ำเสมอ
  • ปรับท่านอนให้เหมาะสม – หลีกเลี่ยงการนอนทับหน้าเป็นเวลานานหรือนอนโดยกดใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งกับหมอนเป็นประจำ เพราะแรงกดทับเป็นประจำอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าในระยะยาว แนะนำให้นอนหงายและใช้หมอนที่รองรับศีรษะและลำคออย่างเหมาะสม หรือหากต้องนอนตะแคง ควรสลับข้างบ้าง
  • รักษาสุขภาพช่องปากและฟัน – การดูแลสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันการสูญเสียฟันที่อาจนำไปสู่การเคลื่อนตัวของฟันและกระดูกขากรรไกร ควรพบทันตแพทย์ตามกำหนดเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการสบฟันที่ไม่สมดุล รวมถึงการรักษาอาการนอนกัดฟันซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของหน้าไม่เท่ากัน
  • ฝึกท่าทางที่ถูกต้องขณะใช้สมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ – การก้มคอมองสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจทำให้กล้ามเนื้อคอและใบหน้าทำงานไม่สมดุล ควรยกอุปกรณ์ให้อยู่ในระดับสายตา ปรับท่านั่งให้หลังตรง ไม่เอียงคอไปด้านใดด้านหนึ่ง และพักสายตารวมถึงยืดเส้นยืดสายเป็นระยะเพื่อลดความตึงของกล้ามเนื้อ
  • บริหารกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ – การทำเฟเชียลโยคะหรือการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างสมดุล ลองฝึกทำท่าต่าง ๆ เช่น การยิ้มกว้าง การขมวดคิ้ว การเป่าแก้ม ซึ่งควรทำอย่างสม่ำเสมอวันละ 5-10 นาทีเพื่อให้กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานเท่ากันทั้งสองข้าง

สรุปเกี่ยวกับภาวะหน้าไม่เท่ากัน

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น

สรุปเกี่ยวกับภาวะหน้าไม่เท่ากัน

หน้าไม่เท่ากันเป็นภาวะที่พบได้ทั่วไป สาเหตุมีตั้งแต่กรรมพันธุ์ การเจริญเติบโตของกระดูกใบหน้า โรคบางชนิด พฤติกรรมการใช้ชีวิต ไปจนถึงอุบัติเหตุ ซึ่งแต่ละสาเหตุก็มีวิธีการแก้ไขที่แตกต่างกันไป สำหรับใครที่มีปัญหาหน้าไม่เท่ากันและอยากเสริมความมั่นใจ หมอแนะนำให้เข้ามาปรึกษาที่ BEAMS plastic surgery เพื่อประเมินปัญหา หาแนวทางแก้ไข และหัตถการที่เหมาะสม รวมถึงออกแบบผลลัพธ์ร่วมกันค่ะ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหน้าไม่เท่ากัน แก้ยังไงให้ได้ผลดี ส่งคำถามมาได้เลย หมอยินดีตอบทุกคำถามนะคะ

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

กรอกข้อมูล ให้เราติดต่อกลับ

Becoming Your Best Self

เข้าใจทุกความกังวลและปัญหาผิวพรรณของคุณ
ด้วยการรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล