ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
ปัญหาหน้าเหี่ยวหรือผิวหน้าหย่อนคล้อยก่อนวัยอันควร ถือเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจและบั่นทอนความมั่นใจของใครหลายคนได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยเล็กๆ ไปจนถึงความหย่อนคล้อยที่เห็นได้ชัด ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณที่มาพร้อมกับวัย หรือเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ที่เราอาจมองข้ามไป บทความนี้ หมอได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุ สัญญาณเตือน รวมถึงวิธีการดูแลและแก้ไขปัญหาผิวหน้าเหี่ยวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์และสดใสอีกครั้งค่ะ
สัญญาณเตือนปัญหาหน้าเหี่ยวก่อนวัย
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าผิวหน้าของคุณกำลังเริ่มมีปัญหาหน้าเหี่ยวก่อนวัยอันควร สังเกตสัญญาณเหล่านี้เพื่อการดูแลที่ทันท่วงที
- ริ้วรอยร่องตื้น (Fine Lines) เป็นริ้วรอยที่บางเบา มักปรากฏขึ้นบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก หรือร่องแก้ม โดยเฉพาะเมื่อมีการแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้ว ริ้วรอยเหล่านี้เป็นสัญญาณแรกเริ่มของผิวที่เริ่มสูญเสียความยืดหยุ่นและคอลลาเจน
- ริ้วรอยร่องลึก (Wrinkles) ริ้วรอยประเภทนี้จะมีความชัดเจนและลึกกว่าริ้วรอยร่องตื้น มักเกิดบริเวณหน้าผาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือรอยย่นระหว่างคิ้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผิวสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินไปมากแล้ว ทำให้โครงสร้างผิวไม่แข็งแรงเท่าเดิม
- ผิวแห้งขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นเพียงพอ จะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส และเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น สังเกตได้จากผิวที่รู้สึกสากๆ ไม่เรียบเนียน และอาจมีอาการลอกเป็นขุยได้ง่าย
- ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ กรอบหน้าไม่ชัด ปัญหาผิวหย่อนคล้อยทำให้กรอบหน้าไม่คมชัด เหนียงใต้คางเพิ่มขึ้น และเกิดถุงใต้ตาหรือความหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม สัญญาณเหล่านี้บ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวอย่างชัดเจน
- รูขุมขนกว้างขึ้น เมื่อผิวเริ่มสูญเสียความกระชับ รูขุมขนที่เคยกระชับจะเริ่มขยายตัวและมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน และอาจนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆ ตามมาได้
- ใบหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ การที่ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป หรือการที่เซลล์ผิวเก่าสะสมอยู่บนชั้นผิวมากเกินไป ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส และมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ
หน้าเหี่ยวก่อนวัยเกิดจากอะไร
ปัญหาหน้าเหี่ยวก่อนวัยอันควรสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวัยหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายจะลดลง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการสร้างคอลลาเจนและความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
- การเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสติน คอลลาเจนและอีลาสตินคือโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ เมื่ออายุมากขึ้นหรือได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก การผลิตโปรตีนเหล่านี้จะลดลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย
- พันธุกรรม ยีนส์ที่เราได้รับจากพ่อแม่มีส่วนกำหนดโครงสร้างผิวและความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองของผิว บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาหน้าเหี่ยวก่อนวัยเนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรม
- แสงแดดและรังสียูวี การได้รับแสงแดดและรังสียูวีเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวโดยตรง ทำให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ และผิวหย่อนคล้อยได้เร็วกว่าปกติ
- มลภาวะและสภาพแวดล้อม ฝุ่นควัน สารเคมี และมลภาวะในอากาศสามารถทำลายเซลล์ผิวและกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสื่อมสภาพของผิวและริ้วรอยก่อนวัย
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ เลือดไหลเวียนไม่ดี ผิวจึงได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่วนแอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งล้วนส่งผลให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
- การพักผ่อนไม่เพียงพอและความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอและการเผชิญกับความเครียดเป็นเวลานานส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียด ซึ่งทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
- การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม การละเลยการบำรุงผิว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว หรือการทำความสะอาดผิวที่ไม่ถูกวิธี ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- ขาดความชุ่มชื้น เมื่อผิวขาดน้ำและขาดความชุ่มชื้น จะทำให้เซลล์ผิวแห้งเหี่ยว ไม่เต่งตึง และเห็นริ้วรอยได้ชัดเจนขึ้น ผิวที่ชุ่มชื้นจะมีความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์กว่า
- การแสดงสีหน้าซ้ำๆ การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ เช่น การขมวดคิ้วบ่อยๆ การยิ้มหรือหัวเราะที่รุนแรง อาจทำให้เกิดริ้วรอยถาวรขึ้นได้ โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และร่องแก้ม
วิธีป้องกันและชะลอหน้าเหี่ยวที่ทำได้ด้วยตัวเอง
แม้ปัญหาหน้าเหี่ยวจะเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เราสามารถชะลอและป้องกันไม่ให้เกิดก่อนวัยอันควรได้ด้วยการดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ทาครีมกันแดดให้เป็นนิสัย
การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยลดริ้วรอย
มองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล วิตามินซี เปปไทด์ หรือไฮยาลูรอนิคแอซิด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของคุณ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ให้ความสำคัญกับการเติมความชุ่มชื้น
ผิวที่ชุ่มชื้นคือผิวที่แข็งแรงและอ่อนเยาว์ ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิคแอซิด กลีเซอรีน หรือเซราไมด์ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวให้ยาวนานตลอดวัน การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวันก็ช่วยเสริมความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอกด้วย
ปรับพฤติกรรมการกิน: เน้นอาหารต้านอนุมูลอิสระ
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้หลากสี ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว และปลาที่มีไขมันดี จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย และชะลอการเสื่อมสภาพของผิวได้
- ทานผักผลไม้สดให้หลากหลาย
- เลือกโปรตีนดีจากเนื้อปลา ไข่ ถั่ว
- ลดน้ำตาลและอาหารแปรรูป
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
จัดการความเครียดและนอนหลับให้มีคุณภาพ
ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อผิวโดยตรง ควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำโยคะ การนั่งสมาธิ หรือการทำกิจกรรมที่ชอบ และควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวอย่างเต็มที่
ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
กู้หน้าเหี่ยวด้วยหัตถการทางการแพทย์
เมื่อวิธีการดูแลตัวเองยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาหน้าเหี่ยวเทคโนโลยีหรือหัตถการทางการแพทย์สมัยใหม่สามารถเข้ามาช่วยฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลชัดเจน
ดึงหน้ายกกระชับใบหน้า (Facelift)
การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift) เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในการแก้ไขปัญหาหน้าเหี่ยวและความหย่อนคล้อยของใบหน้าอย่างถาวร โดยศัลยแพทย์จะทำการปรับตำแหน่งของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับขึ้น พร้อมทั้งกำจัดผิวหนังส่วนเกินออก ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และได้กรอบหน้าที่คมชัดขึ้น
- แก้ไขความหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก
- ให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและเห็นผลชัดเจน
- ช่วยแก้ไขร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และกระเปาะแก้มห้อย
- คืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าโดยรวม
- กรอบหน้าคมชัด ดูเรียวขึ้น
ส่องกล้องดึงหน้า (Endo-Face Lift)
การส่องกล้องดึงหน้า (Endo-Face Lift) เป็นเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้าที่ใช้กล้อง Endoscope ขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ผิวหนังผ่านแผลขนาดเล็ก ทำให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นและปรับตำแหน่งของชั้นเนื้อเยื่อได้อย่างแม่นยำ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าเหี่ยวหรือความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติโดยมีรอยแผลเป็นน้อยที่สุด
- แผลขนาดเล็ก พักฟื้นเร็ว
- ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยอย่างเป็นธรรมชาติ
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ช่วยยกกระชับบริเวณแก้ม คาง และลำคอขึ้น (ใบหน้าส่วนกลางถึงส่วนล่างทั้งหมด)
- ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำด้วยเทคนิคการมองเห็นผ่านกล้อง
ส่องกล้องยกคิ้ว (Endoscopic brow lift)
การส่องกล้องยกคิ้ว (Endoscopic brow lift) เป็นการผ่าตัดยกคิ้ว ยกหางตาและลดริ้วรอยหน้าผากด้วยการใช้กล้อง Endoscope โดยศัลยแพทย์จะทำการสอดกล้องและเครื่องมือขนาดเล็กผ่านแผลผ่าตัดขนาดเล็กบริเวณในไรผม ช่วยแก้ไขปัญหาคิ้วตกตาเศร้าหรือหน้าผากหย่อนคล้อย ทำให้ดวงตาดูโตขึ้นและใบหน้าดูสดใสอ่อนเยาว์ขึ้น
- แก้ไขปัญหาคิ้วตก หน้าผากย่น
- แผลขนาดเล็ก ซ่อนบริเวณในไรผม
- ฟื้นฟูใบหน้าส่วนบนให้ดูอ่อนเยาว์
- ช่วยให้ดวงตาดูโตและสดใสขึ้น
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่ดูตึงเกินไป
แก้หนังตาตกยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้ว (Sub Brow Lift)
การแก้หนังตาตกยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้ว (Sub Brow Lift) เป็นเทคนิคการผ่าตัดแก้ไขปัญหาหนังตาบนหย่อนคล้อย หรือหางตาตก โดยการซ่อนแผลผ่าตัดบริเวณใต้คิ้ว ทำให้มองไม่เห็นรอยแผลเป็นได้อย่างชัดเจน วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกไม่มากนัก และต้องการให้ดวงตาดูสดใสขึ้นโดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปทรงตามากนัก
- แก้ไขหนังตาตกและยกหางตา
- ซ่อนแผลใต้คิ้ว มองไม่เห็นชัดเจน
- ลดปัญหาตาเศร้าทำให้ดวงตาสดใสขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ช่วยให้ดวงตาดูอ่อนเยาว์และเปิดกว้างขึ้น
การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
การฉีดโบท็อกซ์เป็นการใช้สารโบทูลินัมท็อกซินเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอย โดยเฉพาะริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา และรอยย่นระหว่างคิ้ว การฉีดโบท็อกซ์ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นและริ้วรอยดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
- ลดเลือนริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า
- เห็นผลรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่
- ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กได้ (ในบางกรณี)
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมสารไฮยาลูรอนิคแอซิด หรือสารเติมเต็มอื่น ๆ เข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือเติมเต็มบริเวณที่ขาดวอลุ่ม เช่น ใต้ตาที่ลึก ทำให้ใบหน้าดูเต็มอิ่ม อ่อนเยาว์ และช่วยแก้ปัญหาเบ้าตาลึกได้
- เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก
- เพิ่มวอลุ่มให้ใบหน้าดูอิ่มฟู
- แก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกและขมับตอบ
- ปรับรูปหน้าให้สมดุลและอ่อนเยาว์
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและอยู่ได้นานหลายเดือน
การทำ Hifu (High Intensity Focused Ultrasound)
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงยิงลงไปใต้ชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย และลดริ้วรอยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าเหี่ยวความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลางและไม่ต้องการผ่าตัด
- ยกกระชับผิวหน้าและลำคอโดยไม่ต้องผ่าตัด
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว
- ลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
- กรอบหน้าชัดเจนขึ้น
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที

ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
สรุปบทความ
ปัญหาหน้าเหี่ยวหรือความหย่อนคล้อยของผิวหน้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจในตนเองอย่างมากค่ะ การทำความเข้าใจถึงสัญญาณเตือนและสาเหตุจะช่วยให้เราสามารถดูแลและป้องกันผิวได้อย่างถูกวิธี ทั้งจากการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันและการใช้สกินแคร์ที่เหมาะสม
หากใครมีปัญหาผิวหน้าเหี่ยว ริ้วรอยร่องลึก ผิวหน้าหย่อนคล้อย ตาเศร้า เบ้าตาลึก จนทำให้ขาดความมั่นใจ BEAMS plastic surgery พร้อมดูแลทุกปัญหาผิวพรรณบนใบหน้าของคุณค่ะ โดยหมอบีม และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าและหัตถการเสริมความงาม พร้อมให้คำปรึกษา เพื่อแนวทางแก้ไข และผลลัพธ์ร่วมกัน สอบถามกับหมอบีม Facial Expert ผ่านช่องทางต่าง ๆ มาได้เลยนะคะ