ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
สำหรับสาวเอเชียหลายคน การมีดวงตาชั้นเดียวหรือตาตี่ก็ถือเป็นเอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์น่ารักในแบบฉบับของตัวเอง แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าหลายท่านอาจรู้สึกไม่มั่นใจ หรืออยากปรับลุคให้ดวงตาดูโตขึ้น สดใส และมีมิติมากขึ้น เพื่อเสริมบุคลิกภาพให้โดดเด่น การมองหาวิธีแก้ไขจึงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลากหลายวิธีตั้งแต่การแต่งหน้าไปจนถึงการทำศัลยกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุดเลยค่ะ
ตาตี่คืออะไร
ตาตี่ หรือ ตาชั้นเดียว (Monolid) คือลักษณะของเปลือกตาที่ไม่มีรอยพับของชั้นตา หรือมีรอยพับแต่ซ่อนอยู่ด้านใน ทำให้เมื่อลืมตาจะมองไม่เห็นชั้นตาที่ชัดเจน ส่งผลให้ดวงตาดูเรียวเล็กและมีพื้นที่เปลือกตาน้อยกว่าคนที่มีตาสองชั้น ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อยในคนเชื้อชาติเอเชีย โดยลักษณะตาตี่อาจมาพร้อมกับปัญหาหนังตาตกทับดวงตา หรือหัวตาปิด ทำให้ดวงตาดูไม่สดใสเท่าที่ควร
ตาตี่เกิดจากอะไร
ลักษณะของตาตี่และตาชั้นเดียวนั้นมีสาเหตุหลักมาจากโครงสร้างของเปลือกตาที่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรมเป็นสำคัญ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อลักษณะของดวงตาได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสะสมของไขมันบริเวณเปลือกตา หรือภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ทำให้เปลือกตาตกปิดลงมามากกว่าปกติ นอกจากนี้ อายุที่เพิ่มขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวหนังเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน นำไปสู่ภาวะหน้าเหี่ยวหย่อนคล้อย ซึ่งส่งผลให้หนังตาตกลงมาจนชั้นตาดูเล็กลงหรือหายไปได้
สรุปสาเหตุหลักของตาตี่
- กรรมพันธุ์ เป็นสาเหตุหลักที่กำหนดลักษณะของเปลือกตาตั้งแต่เกิด
- ไขมันที่เปลือกตาหนา การมีไขมันสะสมที่เปลือกตามากเกินไป ทำให้เปลือกตาดูหนาและบวมจนมองไม่เห็นชั้นตา
- ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง กล้ามเนื้อที่ใช้ในการลืมตาทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้เปลือกตาตกลงมาปิดตาดำ
- อายุที่เพิ่มขึ้น ผิวหนังรอบดวงตาหย่อนคล้อยตามวัย ทำให้หนังตาตกลงมาบดบังชั้นตาเดิม
วิธีแก้ตาตี่อย่างถาวรด้วยศัลยกรรมตาสองชั้น
สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร การทำศัลยกรรมตาสองชั้นถือเป็นทางออกที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะสามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างเปลือกตาได้อย่างตรงจุด ทำให้ดวงตาดูกลมโตและสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น
เทคนิคการกรีดสั้นเป็นการผ่าตัดเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 3-5 มิลลิเมตร เพื่อนำไขมันส่วนเกินออกและสร้างรอยพับของชั้นตาขึ้นมาใหม่ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันเปลือกตาไม่มากและหนังตาไม่หย่อนคล้อยจนเกินไป เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ได้ชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการกรีดยาว ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนอายุน้อย
จุดเด่นของการกรีดสั้น
- แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมาก
- อาการบวมช้ำน้อย พักฟื้นรวดเร็ว
- ได้ชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา
- ลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็น
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาตาชั้นเดียวแต่หนังตาไม่ตก
ทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว
เทคนิคกรีดยาวเป็นการผ่าตัดเปิดแผลตามแนวยาวของเปลือกตา ทำให้ศัลยแพทย์สามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างครอบคลุม ทั้งการนำไขมันส่วนเกินออก และการตัดหนังตาที่หย่อนคล้อยทิ้งไป ก่อนจะเย็บสร้างชั้นตาใหม่ให้คมชัด วิธีนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีไขมันเปลือกตาเยอะ มีภาวะหนังตาตก หรือผู้ที่มีอายุซึ่งผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อยจนทำให้ดวงตาดูเศร้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของใบหน้าที่ดูหน้าเหี่ยวกว่าวัย
จุดเด่นของการกรีดยาว
- แก้ไขปัญหาเปลือกตาได้หลากหลายและครอบคลุม
- สามารถกำจัดหนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออกไปได้
- สร้างชั้นตาที่สวยงาม คมชัด และคงทนถาวร
- ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน
- เหมาะกับเคสที่หนังตาตกเยอะ มีไขมันหนา หรือต้องการแก้ไขชั้นตาเดิม
แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ในบางกรณี ปัญหาตาตี่ ตาปรือ อาจไม่ได้เกิดจากชั้นไขมันหรือหนังตาเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งทำให้เปลือกตาตกลงมาปิดตาดำมากกว่าปกติ ทำให้ดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา การแก้ไขจำเป็นต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรับระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ใช้ยกเปลือกตา ควบคู่ไปกับการทำตาสองชั้น เพื่อให้ดวงตากลับมาเปิดกว้างและสดใสอีกครั้ง ซึ่งที่คลินิกมีโปรแกรมศัลยกรรม แก้หนังตาตก (Sub Brow Lift) ยกหางตาซ่อนแผลใต้คิ้ว ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกได้อย่างตรงจุด แต่ยังช่วยยกกระชับผิวบริเวณหางตา ทำให้ดวงตาโดยรวมดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาคิ้วไม่เท่ากันได้อีกด้วย
จุดเด่นของการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- แก้ไขปัญหาได้จากต้นตอของอาการตาปรือ ตาตก
- ช่วยให้ลืมตาได้เต็มที่ ดวงตาดูกลมโตและสดใสขึ้น
- ซ่อนรอยแผลไว้ที่ใต้ขอบคิ้ว ทำให้มองเห็นได้ยาก
- ช่วยยกกระชับหางตาที่ตกให้ดูเฉี่ยวขึ้น
- ผลลัพธ์ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ ลดความเหี่ยวรอบดวงตา
เทคนิคเปิดหัวตา-หางตา
นอกจากการทำตาสองชั้นแล้ว เทคนิคการเปิดหัวตา (Epicanthoplasty) และเปิดหางตา (Lateral Canthoplasty) ยังเป็นหัตถการที่ช่วยเสริมให้ดวงตาดูสวยงามสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น การเปิดหัวตาจะช่วยกำจัดเนื้อที่คลุมบริเวณหัวตาออก ทำให้ดวงตาดูยาวเรียวขึ้น ส่วนการเปิดหางตาจะช่วยขยายพื้นที่ตาขาวด้านข้าง ทำให้ดวงตาดูโตและหวานขึ้น เทคนิคนี้มักทำควบคู่ไปกับการทำตาสองชั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
เตรียมตัวอย่างไรก่อนและหลังทำตาสองชั้นแก้ตาตี่
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- งดวิตามิน อาหารเสริม และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, Ibuprofen อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว ให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
- ในวันผ่าตัด ควรสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย (เป็นแบบติดกระดุมหน้าจะดีที่สุด) และไม่แต่งหน้า
- ควรมีผู้ติดตามมาด้วยในวันผ่าตัด และเตรียมแว่นตากันแดดมาเพื่อป้องกันฝุ่นและแสง
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
- ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตาในช่วง 48-72 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม
- นอนหนุนหมอนสูง เพื่อช่วยลดอาการบวม
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง ของแสลง และอาหารรสจัด
- ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ และระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ
- มาพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลและตัดไหม
วิธีแก้ตาตี่แบบไม่พึ่งศัลยกรรม ทำได้เองที่บ้าน
สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัด หรือต้องการทดลองลุคตาสองชั้นดูก่อน ปัจจุบันก็มีไอเทมและเทคนิคต่าง ๆ ที่สามารถช่วยสร้างชั้นตาขึ้นมาได้ชั่วคราว ถึงแม้จะไม่ใช่วิธีการแก้ไขที่ถาวร แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมความมั่นใจในแต่ละวันค่ะ
ใช้สติกเกอร์ตาสองชั้น ตัวช่วยยอดนิยม
สติกเกอร์ตาสองชั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายและเห็นผลทันที มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบตาข่ายที่ต้องใช้กาวทา หรือแบบซิลิโคนสำเร็จรูปที่ลอกแล้วแปะได้เลย ข้อดีคือราคาไม่แพงและหาซื้อง่าย แต่ข้อเสียคืออาจทำให้เกิดการระคายเคืองหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และอาจไม่เหมาะกับคนที่มีเปลือกตาหนาหรือมันมาก เพราะอาจหลุดระหว่างวันได้
ขั้นตอนการติดสติกเกอร์ตาสองชั้น
- ทำความสะอาดเปลือกตาให้ปราศจากความมัน
- ใช้อุปกรณ์ที่มากับผลิตภัณฑ์ (ไม้รูปตัว Y) กดลงบนเปลือกตาเพื่อหาระดับชั้นตาที่ต้องการ
- ลอกสติกเกอร์ออกจากแผ่นฟิล์ม
- แปะสติกเกอร์ลงบนตำแหน่งที่กำหนดไว้ แล้วใช้นิ้วกดเบาๆ ให้แนบสนิทกับผิว
เทคนิคการใช้กาวทำตาสองชั้นให้เนียนเป็นธรรมชาติ
กาวทำตาสองชั้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์คล้ายกับสติกเกอร์ แต่จะให้ความเป็นธรรมชาติที่มากกว่าเพราะไม่มีขอบของสติกเกอร์ให้เห็น แต่ต้องอาศัยความชำนาญในการกะปริมาณและตำแหน่งการทา เพื่อให้ได้ชั้นตาที่สวยงามและเท่ากันทั้งสองข้าง หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติหรือเกิดคราบกาวได้
ขั้นตอนการใช้กาวทำตาสองชั้น
- เช็ดทำความสะอาดเปลือกตาให้แห้งสนิท
- ใช้แปรงที่มากับขวด ทากาวเป็นเส้นบาง ๆ บริเวณตำแหน่งที่ต้องการให้เกิดรอยพับ
- รอสักครู่ให้กาวเริ่มแห้งและเปลี่ยนเป็นสีใส
- ใช้ไม้ดันเปลือกตาขึ้นไปเพื่อสร้างชั้นตา และลืมตาค้างไว้เพื่อให้กาวเซตตัว
สอนแต่งหน้าแก้ตาตี่ เพิ่มมิติให้ดวงตาคมสวย
การแต่งหน้าเป็นศิลปะที่ช่วยพรางจุดด้อยและเสริมจุดเด่นได้เป็นอย่างดี สำหรับคนตาชั้นเดียว การใช้เทคนิคที่ถูกต้องจะสามารถสร้างมิติให้ดวงตาดูโตและกลมสวยขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมใด ๆ เลย
การกรีดอายไลเนอร์สำหรับคนตาชั้นเดียว
- กรีดเส้นไลเนอร์ให้หนา คนตาชั้นเดียวควรกรีดอายไลเนอร์ให้หนากว่าปกติเล็กน้อย เพราะเมื่อลืมตา เปลือกตาจะพับลงมาบังเส้นไลเนอร์ไปบางส่วน
- เริ่มจากเส้นบางๆ ที่หัวตา เขียนให้ชิดขอบตาที่สุดบริเวณหัวตา และค่อยๆ วาดให้หนาขึ้นบริเวณกึ่งกลางถึงหางตา
- วิงหางไลเนอร์ การลากหางอายไลเนอร์ให้ยาวและเฉียงขึ้นเล็กน้อย จะช่วยทำให้ดวงตาดูยาวและเฉี่ยวขึ้น
- Tightlining ใช้ดินสอเขียนขอบตาด้านใน (Inner Liner) เพื่อทำให้ขอบตาดูคมและขนตาดูหนาขึ้น
เทคนิคคัดเบ้าสร้างเงาให้ดวงตา
- เลือกอายแชโดว์สีกลาง ใช้อายแชโดว์สีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทาที่เข้มกว่าสีผิว 1-2 เฉด
- สร้างเบ้าตา ลืมตามองตรง แล้วใช้แปรงหัวฟุ้งแตะสีอายแชโดว์ ค่อยๆ คัดเป็นรูปครึ่งวงกลมเหนือรอยพับเปลือกตา (ตำแหน่งที่เราอยากให้เป็นชั้นตา)
- เบลนด์ให้ฟุ้ง เบลนด์สีให้กระจายตัวฟุ้งๆ เพื่อสร้างเงาที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นเส้นแข็งจนเกินไป จะช่วยหลีกเลี่ยงลุคเบ้าตาลึกที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ
เลือกและติดขนตาปลอมอย่างไรให้ตาดูกลมโต
- เลือกขนตาที่เหมาะสม: เลือกขนตาปลอมที่มีความยาวช่วงกึ่งกลางตามากที่สุด จะช่วยเน้นให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น
- ดัดขนตาก่อน: ดัดขนตาจริงให้งอนงามก่อนติดขนตาปลอม จะช่วยให้ขนตาจริงและขนตาปลอมดูกลืนกัน
- ติดให้ชิดโคนขนตา: ทากาวที่แกนขนตาปลอม รอสักครู่แล้วติดลงไปให้ชิดแนวขนตาจริงมากที่สุด
- ปัดมาสคาร่า: ปัดมาสคาร่าทับอีกครั้งเพื่อให้ขนตาจริงและขนตาปลอมผสานเป็นช่อเดียวกัน
ภาพประกอบการโฆษณาเท่านั้น
สรุปบทความ
จะเห็นได้ว่าปัญหาตาตี่หรือตาชั้นเดียวนั้นมีวิธีแก้ไขที่หลากหลาย ตั้งแต่เทคนิคการแต่งหน้า การใช้อุปกรณ์เสริม ไปจนถึงการทำศัลยกรรมตาสองชั้นซึ่งเป็นการแก้ไขที่ถาวรและตรงจุดที่สุด การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และการประเมินโครงสร้างดวงตาของแต่ละบุคคล หากใครกำลังเผชิญกับปัญหาตาชั้นเดียว ตาตี่ หนังตาตก หรือปัญหาผิวรอบดวงตาที่ทำให้ใบหน้าไม่สดใส ที่ BEAMS plastic surgery พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลทุกปัญหาโดยหมอบีมและทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าโดยเฉพาะ สามารถนัดหมายเข้ามาประเมินเพื่อวางแผนแนวทางการรักษาและออกแบบผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติร่วมกัน สอบถามกับหมอบีม Facial Expert ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของเราได้เลยค่ะ