
ปัญหาหนังตาตก ชั้นตาไม่เท่ากัน หรือเปลือกตาดูบวมหนา ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเหนื่อยล้าและมีอายุมากกว่าวัย คงเป็นเรื่องที่กวนใจใครหลายคน การ “ตัดหนังตา” หรือที่รู้จักกันในชื่อการทำศัลยกรรมตาสองชั้น จึงเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมที่ช่วยคืนความสดใสให้กับดวงตาและปรับภาพลักษณ์ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้อย่างน่าทึ่ง แต่ก่อนจะตัดสินใจทำ เรามาทำความรู้จักกับการผ่าตัดประเภทนี้ให้ลึกซึ้งในทุกมิติ เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจไปพร้อมกันค่ะ
ตัดหนังตา คืออะไร
การตัดหนังตา (Upper Blepharoplasty) คือ การทำศัลยกรรมบริเวณเปลือกตาบน เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างรอบดวงตา โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อนำผิวหนังส่วนเกิน ไขมันส่วนเกิน หรือบางกรณีอาจรวมถึงกล้ามเนื้อบางส่วนที่หย่อนคล้อยออกไป จากนั้นจะทำการเย็บสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ให้สวยงามและเหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล ผลลัพธ์ที่ได้คือดวงตาที่ดูกลมโต สดใส ชั้นตาคมชัด และช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ลง
ตัดหนังตาช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
หัตถการนี้ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ในด้านความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ซึ่งปัญหาหลักๆ ที่การตัดหนังตาสามารถช่วยได้ มีดังนี้
หนังตาตกทับดวงตา
ภาวะหนังตาตก (Ptosis) เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากวัยที่เพิ่มขึ้น การทำงานของกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรงลง หรือเป็นมาแต่กำเนิด ซึ่งหนังตาที่ตกลงมาบดบังการมองเห็น ทำให้ต้องเลิกคิ้วหรือเบิ่งตาอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เสียบุคลิกภาพและอาจทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผากตามมาได้ การตัดหนังตาจะช่วยกำจัดผิวหนังส่วนเกินที่บดบังออกไป ทำให้ลืมตาได้เต็มที่ ทัศนวิสัยในการมองเห็นดีขึ้น ซึ่งในบางเคสที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย หรือมีภาวะคิ้วตกจนทำให้ดูเหมือนมีหนังตาเยอะ การทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ผ่าตัดยกคิ้วส่องกล้อง (Endoscopic Brow Lift) หรือ การยกกระชับหนังตา Sub Brow Lift ก็อาจเป็นทางเลือกที่ศัลยแพทย์แนะนำให้ทำควบคู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ชั้นตาไม่เท่ากัน ชั้นตาหลบใน
ปัญหาชั้นตาสองข้างไม่เท่ากัน หรือชั้นตาหลบในที่มองเห็นเส้นชั้นตาไม่ชัดเจน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจ การตัดหนังตาสามารถช่วยปรับแก้และออกแบบชั้นตาใหม่ให้มีความโค้งสวยงามเท่ากันทั้งสองข้าง และมีความคมชัดมากขึ้น ทำให้ดวงตาดูมีมิติและสมดุล ส่งผลให้การแต่งหน้าง่ายขึ้นและใบหน้าดูหวานขึ้นอีกด้วย
ไขมันเปลือกตาเยอะเกินไป
สำหรับคนที่มีไขมันสะสมที่เปลือกตาบนมากเกินไป จะทำให้เปลือกตาดูหนา อูม และบวมตุ่ยคล้ายคนง่วงนอนอยู่เสมอ การผ่าตัดหนังตาสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินเหล่านี้ออกไปได้ ทำให้เปลือกตาดูเรียบเนียนขึ้น ชั้นตาที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนาหรือลึกจนเกินไป ช่วยให้ดวงตาดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ใครบ้างที่เหมาะกับการตัดหนังตา
การผ่าตัดหนังตาเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลากหลายรูปแบบ ดังนี้
- ผู้ที่มีตาชั้นเดียว หรือชั้นตาหลบใน และต้องการมีตาสองชั้นที่ชัดเจนขึ้น
- ผู้ที่ชั้นตาสองข้างไม่เท่ากัน หรือมีเส้นชั้นตาหลายชั้นไม่ชัดเจน
- ผู้ที่มีไขมันสะสมที่เปลือกตาบนมาก ทำให้ตาดูบวม
- ผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อยจากอายุที่มากขึ้น จนบดบังการมองเห็น
- ผู้ที่เคยทำตาสองชั้นมาแล้ว แต่ผลลัพธ์ยังไม่เป็นที่พอใจ หรือชั้นตาเริ่มตกลงมาตามเวลา
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย
เจาะลึกขั้นตอนการตัดหนังตา ตั้งแต่ปรึกษาจนถึงพักฟื้น
เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง เราได้สรุปกระบวนการทั้งหมดมาให้แล้ว ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาปรึกษา ไปจนถึงขั้นตอนการดูแลตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด
เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การเตรียมความพร้อมของร่างกายและจิตใจตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
- ปรึกษาแพทย์และแจ้งประวัติสุขภาพ ควรแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา และยาที่รับประทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด เพื่อให้แพทย์ได้ประเมินความพร้อมของร่างกายและวางแผนการผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย
- งดยาและวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรงดยากลุ่มแอสไพริน, ไอบูโพรเฟน รวมถึงวิตามินอี, น้ำมันปลา, และสารสกัดจากแปะก๊วย อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะอาจทำให้เลือดออกง่ายและหยุดยากกว่าปกติ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ควรหยุดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากสารในบุหรี่และแอลกอฮอล์มีผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการฟื้นตัวและอาจทำให้แผลหายช้าลง
- เตรียมความพร้อมในวันผ่าตัด ในวันนัดผ่าตัด ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สบายและหลวม งดการแต่งหน้าและใส่คอนแทคเลนส์ ที่สำคัญคือควรมีผู้ติดตามมาด้วยเพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางกลับบ้าน
ขั้นตอนการผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัดหนังตาจะอยู่ภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด โดยใช้ยาชาเฉพาะที่ ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและเจ็บน้อยที่สุดตลอดกระบวนการ ซึ่งมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- การออกแบบชั้นตา ศัลยแพทย์จะประเมินและทำการวาดกำหนดตำแหน่งของชั้นตาใหม่ในขณะที่คุณลืมตาและหลับตา เพื่อให้ได้ความสูงและความโค้งของชั้นตาที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และเหมาะสมกับใบหน้าของคุณมากที่สุด
- การฉีดยาชาเฉพาะที่ หลังจากออกแบบชั้นตาเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณเปลือกตาบน ซึ่งจะทำให้บริเวณนั้นหมดความรู้สึก คุณจะไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการผ่าตัด แต่อาจรู้สึกถึงแรงกดหรือการสัมผัสได้บ้าง
- การผ่าตัดและนำไขมันส่วนเกินออก แพทย์จะกรีดเปิดแผลตามแนวเส้นที่วาดไว้อย่างประณีต จากนั้นจะทำการตัดหนังตาส่วนเกินและไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาออกในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาตกหรือตาบวม
- การเย็บสร้างชั้นตา ขั้นตอนสุดท้ายคือการเย็บปิดแผลด้วยไหมเส้นเล็กพิเศษ ซึ่งเทคนิคการเย็บนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างชั้นตาใหม่ที่คมชัด สวยงาม และซ่อนรอยแผลเป็นให้อยู่ในตำแหน่งที่มองไม่เห็นเมื่อลืมตา
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดทันที
หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้น คุณสามารถเดินทางกลับบ้านเพื่อพักฟื้นได้เลย แต่ช่วง 2-3 วันแรกถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการดูแลแผลเบื้องต้น เพื่อลดอาการบวมช้ำและช่วยให้แผลสมานตัวได้ดี
- การประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก ควรใช้เจลเย็นหรือแผ่นประคบเย็นวางบนเปลือกตาบ่อยๆ (ทำ 15-20 นาที พัก 15-20 นาที) ความเย็นจะช่วยให้เส้นเลือดหดตัวและลดอาการบวมช้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- นอนยกศีรษะให้สูง ควรนอนหนุนหมอน 2-3 ใบให้ศีรษะอยู่สูงกว่าระดับลำตัวประมาณ 30-40 องศา โดยเฉพาะในช่วง 2-3 คืนแรก เพื่อช่วยลดการคั่งของของเหลวและทำให้อาการบวมบริเวณดวงตายุบลงได้เร็วขึ้น
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ควรรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาลดบวม และยาแก้ปวดตามที่แพทย์จัดให้จนครบอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและบรรเทาอาการปวดที่อาจเกิดขึ้นได้
- รักษาแผลให้สะอาดและแห้ง หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำโดยตรง และใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดแผลเบาๆ วันละ 1-2 ครั้ง จากนั้นทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อบางๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันการติดเชื้อ หากต้องการเช็ดแผลช่วงยังมีไหมอยู่ ควรเช็ดให้สะอาดและเช็ดให้แห้งที่สุด เพื่อลดอาการการติดเชื้อเพิ่ม
เปิดข้อดีของการตัดหนังตา ที่มากกว่าความสวยงาม
การลงทุนเพื่อความสวยงามและความมั่นใจในครั้งนี้ ให้ประโยชน์ที่คุ้มค่ามากกว่าที่คิด เพราะการตัดหนังตาสามารถเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์และแก้ไขปัญหาการใช้งานของดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แก้ไขปัญหาการมองเห็น สำหรับผู้ที่หนังตาตกทับดวงตา การผ่าตัดจะช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น ทำให้การมองเห็นชัดเจนและสบายตามากขึ้น ไม่ต้องคอยเบิ่งตาหรือเลิกคิ้วซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยหน้าผากตามมาได้ในระยะยาว
- เสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ ดวงตาที่สดใสและชั้นตาที่สวยงาม ช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูเป็นมิตรและมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองให้กลับคืนมา ไม่ว่าจะในการทำงานหรือการเข้าสังคม
- ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง การกำจัดหนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออกไป เปรียบเสมือนการย้อนวัยให้ผิวรอบดวงตา ทำให้ริ้วรอยเล็กๆ หายไป ดวงตาดูโตขึ้นและสดใสขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยจริง
- ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้น ปัญหาอายไลเนอร์เลอะหรืออายแชโดว์ตกร่องจะหมดไป เมื่อมีชั้นตาที่คมชัดและเปลือกตาที่เรียบเนียน จะช่วยให้การแต่งหน้าง่ายและสนุกขึ้น สามารถสร้างลุคต่างๆ ได้อย่างใจนึก
ข้อควรระวังและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ทุกการผ่าตัดล้วนมีความเสี่ยง เพื่อการตัดสินใจที่รอบคอบที่สุด คุณควรทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการตัดหนังตา แม้จะมีโอกาสเกิดน้อยมากหากทำกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ แม้จะพบได้น้อย แต่ก็มีความเป็นไปได้หากดูแลแผลไม่สะอาดพอ ดังนั้น การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการดูแลแผลอย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนนี้
- ผลลัพธ์ไม่เป็นที่พึงพอใจ อาจเกิดปัญหาชั้นตาสูงหรือต่ำเกินไป ชั้นตาไม่เท่ากัน หรือแผลเป็นนูนได้ ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการประเมินที่ไม่แม่นยำหรือเทคนิคการผ่าตัด จึงควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง
- ภาวะตาแห้งหรือหลับตาไม่สนิท ในช่วงแรกหลังผ่าตัดอาจมีอาการตาแห้งหรือหลับตาได้ไม่สนิทชั่วคราว เนื่องจากอาการบวม ซึ่งโดยทั่วไปอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเองเมื่อแผลยุบลง แต่หากเป็นต่อเนื่องควรปรึกษาแพทย์
- อาการบวมช้ำนานกว่าปกติ ระดับความบวมช้ำในแต่ละบุคคลนั้นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด การปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้อาการเหล่านี้หายได้เร็วขึ้น
วิธีดูแลตัวเองหลังตัดหนังตาอย่างถูกวิธี ลดบวม แผลสวย
หัวใจสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์ของการผ่าตัดออกมาสวยงามและเข้าที่เร็ว คือการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีในช่วงพักฟื้น ซึ่งมีข้อควรปฏิบัติที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
การประคบเย็นและประคบอุ่น
ในช่วง 48-72 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัด ให้ใช้เจลเย็นหรือผ้าห่อน้ำแข็งประคบบริเวณรอบดวงตาบ่อยๆ เพื่อช่วยลดอาการบวมและห้ามเลือด หลังจากนั้นให้เปลี่ยนมาเป็นการประคบอุ่น เพื่อช่วยลดรอยช้ำและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลยุบบวมได้เร็วยิ่งขึ้น
อาหารที่ควรทานและควรเลี่ยง
ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม เพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฟักทอง ใบบัวบก เพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำ ในทางกลับกัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง อาหารทะเล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะกระตุ้นให้แผลบวมและหายช้าลง
การดูแลแผลและป้องกันแผลเป็น
รักษาความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดอยู่เสมอโดยใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ และทายาฆ่าเชื้อตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำโดยตรง และงดการแต่งหน้าบริเวณดวงตาจนกว่าจะตัดไหม หลังจากตัดไหมแล้ว สามารถเริ่มทายาลดรอยแผลเป็นเพื่อช่วยให้รอยแผลจางลงและเรียบเนียนยิ่งขึ้น
สรุปบทความ
การตัดหนังตาเป็นศัลยกรรมที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งในด้านความงามและด้านการใช้งาน ช่วยคืนความอ่อนเยาว์และความสดใสให้กับดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมตัว ข้อดี ข้อควรระวัง ไปจนถึงการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด จะช่วยให้คุณได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและปลอดภัยที่สุด
หากใครกำลังมีปัญหาหนังตาตกชั้นตาไม่เท่ากัน หรือไขมันเปลือกตาเยอะ ที่ BEAMS Plastic Surgery พร้อมดูแลทุกปัญหาด้วยความใส่ใจ โดย หมอบีม และทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า คุณสามารถเข้ามาปรึกษาเพื่อประเมินปัญหาและวางแผนแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมกับคุณที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและดีที่สุดร่วมกัน สอบถามกับหมอบีม Facial Expert ผ่านช่องทางต่างๆ มาได้เลยค่ะ